คลิกเลือกไปหน้าแรก
ชาวสวน'92เข้าสูระบบ
คลิกดูกำหนดการได้ที่วันที่ในปฏิทิน
ธันวาคม - 2567
พฤ
อา
25
26
27
28
29
30
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
1
2
3
4
5
 

@คณะกรรมการชมรม
@ตัวแทน/ผู้ประสานงาน
@วิสัยทัศน์ ค่านิยม ยุทธศาสตร์
@ระเบียบการบริหารงาน
@ระเบียบว่าด้วยเงิน
@รักรุ่นจริงไม่ทิ้งกัน
@บัญชีสถานะการเงิน
@เพลงสวน

คลิกเพื่อเลือกชมและบันทึกข้อความ
คลิกเพื่อดูหรือ post ข่าว
 คลิกเพื่อดูหรือ post จดหมายเวียน
คลิกเพื่อดูหรือ post กำหนดการทำบุญบริจาคโลหิต
คลิกเพื่อดูหรือ post เข้าบอร์ดเพื่อนช่วยเพื่อน
คลิกเพื่อดูหรือ post รายละเอียดธุรกิจของเพื่อน
คลิกเพื่อดูหรือ post คลิปโดนๆของชาวสวน 96
คลิกเพื่อดูหรือ post ภาพกิจกรรมของชาวสวน 96
คลิกเพื่อฝากข่าวสารถึงท่านประธาน
คลิกเพื่อฝากข่าวสารถึง webmaster
คลิกเพื่อดูหรือ postข่าวสารทางวิชาการจากสวน 96
คลิกเพื่อดูหรือ postคำคม,ปรัชญาชีวิต
คลิกเพื่อดูหรือ postเรื่องซุบซิบนินทา
คลิกเพื่อดูหรือ postเรื่องของครอบครัวสวน  96
คลิกเพื่อดูหรือ postเรื่องสันทนาการ

  คลิกเพื่อลิ้งค์ไปสู่หน้าเวปสวนกุหลาบ
  คลิกเพื่อลิ้งค์ไปสู่หน้าเวป OSKNETWORK


หัวข้อ :คำปราศรัยของ BILL GATES ในวันรับปริญญา อ่านให้จบเถิด มันมีอะไรซ่อนอยู่   [ No. 2111 ]  
รายละเอียด :
ถอดความโดย ดร. ไสว บุญมา

คงเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า บิลล์ เกตส์ ผู้ครองตำแหน่งอภิมหาเศรษฐีหมายเลขหนึ่งของโลกในช่วงเวลา 13 ปีที่ผ่านมา ออกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดก่อนเรียบจบหลักสูตรปริญญาตรี ปัจจัยที่ทำให้เขาออกกลางคันได้แก่ความต้องการที่จะทุ่มเทเวลา ให้กับการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ผลของความทุ่มนั้นเป็นที่รู้กันอย่างทั่วถึงแล้ว ตอนนี้ บิลล์ เกตส์ อายุยังไม่ครบ 52 ปี แต่ได้ประกาศว่าเขาจะเกษียณจากบริษัทไมโครซอฟท์ในราวอีก 1 ปี หลังจากนั้นเขาจะทุ่มเทเวลาให้กับการแก้ปัญหาของโลกผ่านมูลนิธิ ซึ่งขณะนี้มี เงินทุนที่ได้รับจากเขาราว 30,000 ล้านดอลลาร์และกำลังจะได้รับจาก วอร์เรน บัฟเฟตต์ อภิมหาเศรษฐีหมายเลขสองของโลกอีก 37,000 ล้านดอลลาร์
เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ประสาทปริญญากิตติมศักดิ์ให้ บิลล์ เกตส์ และได้เชิญให้เขากล่าวคำปราศรัยในพิธีประสาทปริญญาของผู้จบการศ ึกษาในปีนี้ด ้วย ผมเห็นว่าคำปราศรัยของเขามีแง่คิดที่น่าใส่ใจยิ่ง จึงนำมาถอดความสำหรับผู้ที่อาจไม่มีโอกาสฟังหรืออ่านคำปราศรัยน ั้น เนื่องจากคำปราศรัยอ้างถึงภูมิหลังบางอย่างซึ่งผู้อ่านอาจไม่คุ ้นเคย เพื่อความกระจ่างและเพื่อให้เห็นมุกขบขันของเขา ผมได้เพิ่มคำอธิบายสั้น ๆ ไว้ในวงเล็บ [?] คำปราศรัยนั้นอาจถอดได้ดังนี้ :
???????????????????????

(สำหรับภาษาอังกฤษ หาอ่านได้ที่นี่ครับ)

ท่านอธิการบดีบอค, ท่านอดีตอธิการบดีรูเดนสไตน์, ท่านอธิการบดีที่จะเข้ามารับตำแหน่งต่อไปเฟาสต์, สมาชิกของบรรษัทฮาร์วาร์ดและคณะกรรมการดูแลมหาวิทยาลัย, คณาจารย์, พ่อแม่, และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง, บัณฑิต:

ผมคอยมา 30 ปีที่จะพูดว่า ?คุณพ่อครับ, ผมบอกคุณพ่อเสมอมาใช่ไหมว่าวันหนึ่งผมจะกลับมาเอาปริญญาให้ได้? [ผู้ฟังหัวเราะกันอย่างทั่วถึง]

ผมขอขอบคุณมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่ป ระสาทปริญญาให้ผมทันเวลาพอดิบพอดี. ผมจะเปลี่ยนงานปีหน้า ? และมันน่าจะดีเมื่อในที่สุดผมจะมีปริญญาพ่วงท้ายในใบประกาศคุณส มบัติของผมเส ียที. [เสียงหัวเราะจากผู้ฟัง]

ผมขอปรบมือให้ผู้จบการศึกษาวันนี้ที่ เดินไปสู่จุดมุ่งหมายด้วยทางสายตรง. สำหรับผม, ผมมีความสุขที่หนังสือพิมพ์คลิมสัน [หนังสือพิมพ์รายวันของนักศึกษาฮาร์วาร์ด] ให้สมญาผมว่า ?ผู้ประสบความสำเร็จสูงสุดในหมู่ผู้เรียนไม่จบของฮาร์วาร์ด? ผมเดาเอาว่านั่นหมายถึงผมคือผู้ทำคะแนนได้สูงสุดในรุ่นพิเศษของ ผม ? ผมทำได้ดีที่สุดในหมู่ผู้สอบตกด้วยกัน. [เสียงหัวเราะจากผู้ฟัง]

แต่ผมต้องการได้รับการยอมรับว่าผมเป็นผู้ที่ทำให้สตีฟ บอลล์เมอร์ [เพื่อนซี้ของ บิลล์ เกตส์ ซึ่งขณะนี้เป็นประธานผู้บริหารของบริษัทไมโครซอฟท์] เลิกเรียนวิชาบริหารธุรกิจ. ผมมักชักนำคนไปในทางเสีย. นั่นคือเหตุผลที่ผมได้รับเชิญมาพูดในวันรับปริญญาของคุณ. ถ้าผมมาพูดในวันปฐมนิเทศของคุณ, คุณบางคนอาจยังเรียนไม่จบในวันนี้ก็ได้.. [เสียงหัวเราะจากผู้ฟัง]

ฮาร์วาร์ดเป็นประสบการณ์อันแสนพิเศษสำหรับผ ม. ชีวิตการเรียนประทับใจยิ่ง. ผมได้เข้าไปนั่งฟังวิชาต่าง ๆ มากมายซึ่งผมไม่ได้แม้กระทั่งลงทะเบียนเรียน. และชีวิตในหอพักก็สุดยอด. ผมพักที่แรดคลิฟฟ์ [วิทยาลัยหญิงซึ่งต่อมายุบรวมกับฮาร์วาร์ด], ในหอพักชื่อเคอร์รี่เออร์.
มีคนจำนวนมากเข้ามาอยู่ในห้องของผมตอนดึก ๆ เพื่อคุยกันถึงเรื่องต่าง ๆ เสมอ, เนื่องจากทุกคนรู้ว่าผมไม่ค่อยวิตกเรื่องการจะต้องลุกจากที่นอน หรือไม่ในวัน รุ่งขึ้น. นั่นคือที่มาของการเป็นผู้นำของกลุ่มต่อต้านสังคมของผม. เราเกาะกลุ่มกันเพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าเราไม่เอาด้วยกับพวกส ังคมจัดทั้งห ลาย.

แรดคลิฟฟ์เป็นที่อยู่อันยอดเยี่ยม. มีสาว ๆ ยั้วเยี้ยไปหมด, และหนุ่ม ๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นพวกวิทย์-คณิต. ปัจจัยทั้งสองรวมกันเอื้อให้ผมมีโอกาสสูงยิ่ง, คุณคงพอจะรู้ว่าผมหมายถึงอะไรใช่ไหม [เสียงหัวเราะ]. ณ จุดนี้เองที่ผมเรียนรู้เรื่องชวนหดหู่ใจว่า การเพิ่มโอกาสไม่นำไปสู่ความสำเร็จเสมอไป. [เสียงหัวเราะ]

ความทรงจำ อันสำคัญยิ่งอย่างหนึ่งเกี่ยวกับฮาร์วาร์ดของผมเกิดขึ้นในเดือน มกร าคม 1975, เมื่อผมโทรศัพท์จากหอพักเคอร์รี่เออร์ไปหาบริษัทหนึ่งที่เมืองอ ัลบูเคอร์คี [ในรัฐนิวเม็กซิโก] ซึ่งได้เริ่มทำคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเครื่องแรกในโลก. ผมเสนอขายซอฟท์แวร์ให้เขา.

ผมกังวลว่าเขาจะรู้ว่าผมเป็นเพียง นักศึกษ าในหอพักและจะไม่พูดด้วย. แต่เขากลับพูดว่า ?เรายังไม่เสร็จเรียบร้อยนัก, เดือนหน้าค่อยมาหาเราก็แล้วกัน? ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี, เพราะเรายังไม่ได้เขียนซอฟท์แวร์ชิ้นนั้นเลย. นับแต่เสี้ยววินาทีนั้นเอง, ผมทำโครงการเพื่อเอาคะแนนพิเศษเล็ก ๆ ชิ้นนั้นแบบหามรุ่งหามค่ำ ซึ่งเป็นจุดพลิกผันที่นำไปสู่การยุติการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยข องผม ทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางอันพิเศษสุดกับบริษัทไมโคร ซอฟท์.

สิ่งที่ผมจำได้เหนืออื่นใดเกี่ยวกับฮาร์วาร์ดได้แก่การอยู่ท่าม กลางพลังงานแ ละปัญญา. มันอาจทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวา, น่าขวัญเสีย, บางทีถึงกับน่าท้อถอย, แต่ก็มีความท้าทายเสมอ. มันเป็นอภิสิทธิ์อันน่าทึ่ง ? และแม้ว่าผมจะออกไปก่อนเรียนจบ, ผมได้ถูกปฏิรูปขนานใหญ่จากเวลาที่ผมอยู่ในฮาร์วาร์ด, จากมิตรภาพที่ผมได้สร้างขึ้น, และจากแนวคิดที่ผมได้พัฒนา.

แต่เมื่อมองย้อนกลับไปจริง ๆ ? ผมมีความสลดใจอยู่อย่างหนึ่ง.

ผมออกจากฮาร์วาร์ดไปโดยไม่มีความตระหนักอย่างแท้จริงเลย ถึงความไม่เสมอภาคอันแสนโหดร้ายในโลก ความเหลื่อมล้ำอันน่าขนหัวลุกในด้านสุขภาพ, และด้านทรัพย์สิน, และด้านโอกาสซึ่งสาปแช่งคนเรือนล้านให้มีชีวิตอันสิ้นหวัง.

ผมได้เรี ยนรู้แนวคิดใหม่ ๆ ด้านเศรษฐศาสตร์และด้านการเมืองอย่างมากมายที่ฮาร์วาร์ด. ผมได้สัมผัสใกล้ชิดถึงความก้าวหน้าซึ่งกำลังเกิดขึ้นในด้านวิทย าศาสตร์.

ทว่าความก้าวหน้าของมนุษยชาติไม่ได้ขึ้นอยู่กับการค้นพบ แต่อยู่ที่การค้นพบเหล่านั้นถูกนำไปประยุกต์ใช้ เพื่อลดความไม่เสมอภาคกันได้อย่างไรต่างหาก. ไม่ว่าจะผ่านทางระบอบประชาธิปไตย, การศึกษาที่แข็งแกร่ง, ระบบดูแลสุขภาพที่ดี, หรือโอกาสทางเศรษฐกิจที่กว้างขวาง การลดความไม่เสมอภาคกันถือเป็นผลสำฤทธิ์อันสูงที่สุดของมนุษย์ รา.

ผมออกจากมหาวิทยาลัยไปโดยแทบไม่รู้เลยว่าเยาวชนนับล้านคน ถูกโกงโอกาสทางการศึกษาในประเทศของเรานี่เอง. และผมไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับคนเป็นล้าน ๆ ที่ต้องมีชีวิตอยู่กับความยากจนแสนสาหัสและโรคร้ายในประเทศกำลั งพัฒนา.

เป็นเวลาหลายทศวรรษกว่าผมจะค้นพบ.

คุณ ๆ บัณฑิตทั้งหลายมาเรียนที่ฮาร์วาร์ดในช่วงเวลาที่ต่างไปจากเดิม. คุณรู้เกี่ยวกับความไม่เสมอภาคกันในโลกมากกว่ารุ่นที่มาก่อนคุณ . ในช่วงเวลาที่คุณอยู่ที่นี่, ผมหวังว่าคุณจะมีโอกาสได้คิดว่า ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าในอัตราเร่งนี้ ในที่สุดเราจะสามารถประจัญกับความไม่เสมอภาคกันเหล่านั้นได้, และเราก็จะเอาชนะมันได้ด้วย.

ลองจินตนาการดูซิ, นี่เพียงเพื่อคิดเล่น ๆ เท่านั้นนะ, ว่าคุณมีเวลาสองสามชั่วโมงต่อสัปดาห์และมีเงินสองสามดอลลาร์ต่อ เดือน สำหรับอุทิศให้เพื่ออะไรสักอย่าง และคุณต้องการใช้เวลาและเงินนั้นในที่ซึ่งมีผลสูงสุดในด้านการช ่วยชีวิตและก ารปรับปรุงชีวิตให้ดีขึ้น. คุณคิดว่าคุณจะใช้เวลาและเงินนั้นที่ไหน ?

สำหรับเมลินดา [ภรรยาของบิลล์ เกตส์] กับผม, ความท้าทายก็เหมือนกัน นั่นคือ เราจะทำอย่างไรให้เกิดผลดีที่สุดต่อคนจำนวนมากที่สุดจากทรัพยาก รที่เรามีอยู ่.

ในระหว่างที่เราปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับคำถามนี้, เมลินดาและผมได้อ่านบทความเกี่ยวกับเด็กในประเทศยากจนนับล้านคน ซึ่งตายไปทุกปีจากโรคที่เราทำให้หมดอันตรายไปนานแล้วในประเทศนี ้. หัด, มาลาเรีย, ปอดชื้น, ไวรัสบีในตับ, ไข้เลือดออก. โรคหนึ่งซึ่งผมไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย,นั่นคือโรตาไวรัส, คร่าชีวิตเด็กปีละครึ่งล้านคน ไม่มีเด็กในสหรัฐอยู่ในกลุ่มนั้นแม้แต่คนเดียว.

เรารู้สึกตกใจ. เราคิดว่าถ้าเด็กเป็นล้านคนกำลังจะตาย แต่จริง ๆ แล้วพวกเขาอาจรอดหากได้รับความช่วยเหลือ, ชาวโลกคงจะเร่งค้นหาและส่งยาไปช่วยชีวิตแก่พวกเขา. แต่ชาวโลกก็ไม่ทำ. ด้วยเงินเพียงไม่ถึงดอลลาร์เท่านั้น, มีความช่วยเหลือซึ่งจะช่วยชีวิตพวกเขาได้ที่ไม่ถูกส่งไป.

หากคุณเชื่ อว่าทุกชีวิตมีค่าเท่ากัน, มันช่างน่าอับอายยิ่งเมื่อเรียนรู้ว่าบางชีวิตถูกมองว่ามีค่าพอ น่าช่วยไว้แล ะบางชีวิตไม่มีค่าพอ.. เราบอกกับตัวเราเองว่า ?นี่มันไม่จริง. แต่ถ้ามันจริง, มันเป็นสิ่งที่ควรจะได้รับความช่วยเหลือในลำดับต้น ๆ ของเรา?

ดังนั้นเราจึงเริ่มงานของเราในแนวเดียวกันกับทุกคนที่นี่คงจะเร ิ่ม. เราถามว่า ?ชาวโลกปล่อยเด็กเหล่านั้นตายได้อย่างไร ??

คำตอบนั้นง่าย, แต่บาดหู. ระบบตลาดไม่ให้รางวัลต่อการช่วยชีวิตเด็กเหล่านั้น, และรัฐบาลไม่ให้เงินสนับสนุน. ดังนั้นเด็กจึงตายเพราะแม่และพ่อของพวกเขาไม่มีอำนาจในตลาด และไม่มีสิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นในระบบ.

แต่คุณกับผมมีทั้งสองอย่าง.

เราจะทำให้อานุภาพของตลาดทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นสำหร ับคนจน หากเราสามารถพัฒนาระบบทุนนิยมให้มีความสร้างสรรค์ยิ่งขึ้นได้ ถ้าเราสามารถขยายอานุภาพของตลาดออกไปจนทำให้คนจำนวนมากขึ้นแสวง หากำไรได้, หรืออย่างน้อยก็พอทำมาหาเลี้ยงชีพได้, จะเป็นการช่วยเหลือผู้ที่ต้องรับเคราะห์จากความไม่เสมอภาคที่โห ดร้ายที่สุด. เราสามารถกดดันรัฐบาลทั่วโลกให้ใช้เงินของผู้เสียภาษีไปในทางที ่สะท้อนคุณธร รมของผู้เสียภาษีได้ดีขึ้น.

หากเราสามารถค้นหากลวิธีที่จะสนองความต้ องการของคนจนได้ ด้วยหนทางที่ทำกำไรให้ภาคธุรกิจและสร้างคะแนนเสียงให้นักการเมื องได้พร้อม ๆ กัน, เราก็จะพบหนทางที่ยั่งยืนสำหรับลดความไม่เสมอภาคกันในโลก. กิจอันนี้ไม่มีขอบเขต. มันไม่มีวันสิ้นสุด. แต่ความพยายามอันเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ที่จะเผชิญกับความท้าทายนี้จะเปลี่ยนโลกอย่างแน่นอน.

ผมมองว่าเราทำไ ด้, แต่ผมคุยกับผู้ที่มีความกังขาซึ่งอ้างว่าไม่มีหวัง. พวกเขากล่าวว่า ?ความไม่เสมอภาคกันอยู่กับเรามาตั้งวันแรก, และก็จะอยู่กับเราไปจนวันสุดท้าย ทั้งนี้เพราะมนุษย์เรา ? ไม่มี ? น้ำใจ.? ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ.

ผมเชื่อว่าเรามีน้ำใจมากจนไม่รู้ว่าจะใช้ทำอะไรหมด.

เราทุกคนในที่นี้, ไม่เวลาใดก็เวลาหนึ่ง, ได้เคยเห็นโศกนาฏกรรมของเพื่อนมนุษย์ที่ทำให้หัวใจ ของเราแตกสลา ย, แต่เราก็มิได้ทำอะไรลงไป ไม่ใช่เพราะเราไม่มีน้ำใจ, หากเพราะเราไม่รู้ว่าจะทำอะไร. หากเรารู้ว่าจะช่วยเขาอย่างไร, เราคงได้ทำไปแล้ว.

อุปสรรคของความเปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่ที่การมีน้ำใจน้อยเกินไป; หากอยู่ที่ความสลับซับซ้อนมากเกินไป.

เพื่อจะแปลงความมีน้ำใจไปสู่การปฏิบัติ, เราต้องเข้าใจปัญหา, มองเห็นทางแก้ไข, และมองเห็นผลลัพธ์. แต่ความสลับซับซ้อนปิดกั้นขั้นตอนทั้งสามจนหมดมิด.

แม้จะมีระบบอินเต อร์เนตและข่าวตลอด 24 ชั่วโมงแล้วก็ตาม, มันยังเป็นภารกิจที่สลับซับซ้อนยิ่งที่จะทำให้คนเราเข้าใจปัญหา อย่างทะลุปรุ โปร่ง. เมื่อเครื่องบินตก, เจ้าหน้าที่จะออกแถลงการณ์ทันที. เขาสัญญาว่าจะสืบสวน, พิจารณาสาเหตุ, และป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกในอนาคต.

แต่ถ้าเจ้าหน้าที่มีความตรง ไปตรงมาจริง ๆ, เขาคงจะพูดว่า: ?ในบรรดาผู้เสียชีวิตทั้งหมดในโลกที่ตายลงในวันนี้จากสาเหตุที่ ป้องกันได้, ราวครึ่งเปอร์เซ็นต์ของพวกเขาอยู่ในเครื่องบินลำนั้น. เราตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าเราจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อแก้ปัญหาท ี่คร่าชีวิตข องคนครึ่งเปอร์เซ็นต์นั้น?

ปัญหาที่ใหญ่กว่าไม่ใช่การตกของเครื่องบิน, หากเป็นความตายของคนเป็นหลักล้านที่ป้องกันได้.

เราไม่ค่อยได้อ่านข่าวเกี่ยวกับความตายพวกนี้. สื่อรายงานเฉพาะสิ่งใหม่ ๆ และเรื่องคนตายเป็นหลักล้านไม่มีอะไรใหม่. ดังนั้นมันจึงเป็นเพียงเรื่องประกอบ, ซึ่งง่ายต่อการมองข้าม. แต่เมื่อเราเห็นหรืออ่านพบ, ก็ยังยากที่จะเฝ้าดูปัญหานั้น. มันยากยิ่งที่จะมองดูความทุกข์ร้อนในเมื่อสถานการณ์แสนจะสลับซั บซ้อน จนเราไม่รู้ที่จะช่วยอย่างไร. และดังนั้นเราจึงเมินหน้าหนี.

หากเราเ ข้าใจปัญหาจริง ๆ, ซึ่งเป็นขั้นตอนแรก, เราจะมาถึงขั้นตอนที่สอง นั่นคือ การทะลุทะลวงความสลับซับซ้อนเพื่อให้ได้มาซึ่งทางแก้ไข.

การค้นหาทาง แก้ไขให้พบนั้นสำคัญยิ่งหากเราจะใช้ความมีน้ำใจของเราให้ได้ผลส ู งสุด. หากเรามีคำตอบที่ชัดเจนและได้พิสูจน์มาแล้วเมื่อองค์กรหรือบุคค ลใดถามว่า ?ผมจะช่วยได้อย่างไร ?? เราจะดำเนินการได้ทันที ? และเราจะสามารถทำให้เกิดความมั่นใจได้เลยว่าไม่มีน้ำใจในโลกนี้ ที่จะสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์แม้แต่หยดเดียว. แต่ความสลับซับซ้อนทำให้ยากแก่การที่จะวางแนวทางดำเนินการสำหรั บทุก ๆ คนที่มีน้ำใจ และนั่นแหละที่มันยากที่จะทำให้การมีน้ำใจของพวกเขาบรรลุผล.

การทะลุทะลวงความสลับซับซ้อนเพื่อค้นหาทางแก้ไขมีขั้นตอนที่พอจ ะคาดได้อยู่ส ี่ขั้นด้วยกันคือ พิจารณาจุดหมาย, ค้นหากลวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงสุด, แสวงหาเทคโนโลยีทีเหมาะสมที่สุดสำหรับกลวิธีนั้น, และในระหว่างที่แสวงหาอยู่, ก็ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วอย่างชาญฉลาด ไม่ว่าจะเป็นชนิดที่ต้องใช้ความรอบรู้ค่อนข้างสูง, เช่น ยา, หรือชนิดที่ง่ายกว่า, เช่น มุ้ง.

ขอยกการแพร่ระบาดของโรคเอดส์มาเป็น ตัวอย่าง. จุดหมายกว้าง ๆ, แน่ละ, ย่อมได้แก่การกำจัดโรคนั้น. กลวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดได้แก่การป้องกัน. เทคโนโลยีที่เหมาะสมที่สุดน่าจะเป็นวัคซีนที่ฉีดเพียงครั้งเดีย วแล้วคุ้มครอ งได้ตลอดชีวิต. ดังนั้นรัฐบาล, บริษัทยา, และมูลนิธิทั้งหลายจะต้องสนับสนุนเงินแก่การวิจัยวัคซีน. แต่งานวิจัยคงใช้เวลาเกินทศวรรษ, ดังนั้นในระหว่างที่งานวิจัยกำลังดำเนินไป, เราต้องใช้สิ่งที่เรามีอยู่ในมือแล้ว และกลวิธีป้องกันที่ดีที่สุดที่เรามีในปัจจุบันได้แก่การชักจูง ผู้คนให้หลีก เลี่ยงพฤติกรรมที่มีความเสี่ยง.

การจะไปให้ถึงจุดหมายนั้นต้องเริ่มจากวงจรที่มีสี่ขั้นตอนด้วยก ันอีก. นี่คือรูปแบบ.
ส ิ่งสำคัญคือต้องไม่หยุดคิดและหยุดทำ และจะหัวเด็ดตีนขาดอย่างไรจะต้องไม่ทำสิ่งที่เราทำกับมาลาเรีย และวัณโรคในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 20 ? ซึ่งได้แก่การยอมแพ้แก่ความสลับซับซ้อนและวางมือไปเลย.

ขั้นตอนสุดท้ าย ? หลังจากเข้าใจปัญหาและค้นพบกลวิธีแล้ว ได้แก่การวัดผลงานของคุณและเผยแพร่ความสำเร็จและความล้มเหลวของ คุณ เพื่อคนอื่นจะได้เรียนรู้จากความพยายามของคุณ.

คุณต้องมีข้อมูล, แน่ละ. คุณต้องแสดงให้เห็นได้ว่าโครงการหนึ่งฉีดวัคซีนให้เด็กจำนวนล้า น. คุณต้องแสดงให้เห็นได้ว่าจำนวนเด็กที่ตายด้วยโรคร้ายเหล่านั้นล ดลง. นี่มีความสำคัญยิ่งไม่เฉพาะต่อการปรับปรุงโครงการให้ดีขึ้น, แต่เพื่อช่วยดึงการลงทุนเพิ่มขึ้นจากภาคธุรกิจและรัฐบาลด้วย.

แต่ถ้า คุณต้องการดลใจให้คนอื่นเข้าร่วม, คุณจะต้องแสดงให้เห็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือตัวเลข; คุณต้องแสดงให้เห็นถึงผลดีที่งานนั้นมีต่อบุคคลในแบบที่ให้ภาพช นิดติดตา เพื่อให้คนอื่นเกิดความรู้สึกว่าการช่วยชีวิตหนึ่งนั้นสำคัญแค่ ไหนต่อครอบคร ัวที่ได้รับผล.

ผมจำได้ครั้งผมไปดาวอส [การพบปะกันประจำปีของผู้นำทางธุรกิจและการเมือง ณ เมืองสำหรับพักผ่อนซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาของสวิตเซอร์แลนด์] เมื่อหลายปีมาแล้วและเข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการซึ่ง กำลังปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับหนทางที่จะช่วยชีวิตคนเป็นหลักล้า น. หลักล้านนะครับ ! ลองนึกถึงความตื่นเต้นของการช่วยชีวิตคนเพียงคนเดียว แล้วคูณด้วยหลักล้าน. ? ทว่านั่นเป็นคณะกรรมการที่น่าเบื่อที่สุดที่ผมเคยมีส่วนร่วม น่าเบื่อที่สุดในประวัติศาสตร์.
น่าเบื่อเสียจนผมเองก็ทนไม่ไหว.

สิ่งที่ทำให้ประสบการณ์ครั้งนั้นโดดเด่นเป็นพิเศษได้แก่ ผมเพิ่งมาจากรายการที่เราเปิดตัวซอฟท์แวร์รุ่นที่ 13 ชิ้นหนึ่ง, และเราทำให้คนกระโดดขึ้นลงและส่งเสียงดังลั่นด้วยความตื่นเต้น. ผมชอบทำให้คนตื่นเต้นเกี่ยวกับซอฟท์แวร์ แต่ทำไมเราสร้างความตื่นเต้นเกินนั้นไม่ได้ในการช่วยชีวิตคน ?

คุณจะ ทำให้ผู้คนตื่นเต้นไม่ได้หากคุณไม่สามารถทำให้เขามองเห็น และเกิดความรู้สึกต่อผลลัพธ์ที่จะออกมา. และคุณจะทำให้สิ่งนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร ? เป็นคำถามที่สลับซับซ้อน.

อย่างไรก็ดี, ผมยังมีความเชื่อมั่นว่าทำได้. ใช่, ความไม่เสมอภาคกันมีอยู่คู่กับเรามาชั่วกัปชั่วกัลป์แล้ว, แต่เครื่องมือใหม่ที่เรามีสำหรับทะลุทะลวงความสลับซับซ้อนมิได้ มีอยู่คู่กับ เรามาชั่วกัปชั่วกัลป์ด้วย. มันเป็นของใหม่ มันจะช่วยทำให้ความมีน้ำใจของเราเกิดผลสูงสุด และนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมอนาคตจึงอาจต่างจากอดีตได้.

นวัตกรรมที่ย ิ่งใหญ่และที่กำลังเกิดขึ้นในยุคนี้ ? เทคโนโลยีชีวภาพ, คอมพิวเตอร์, ระบบอินเตอร์เนต ? ให้โอกาสซึ่งเราไม่เคยมีมาก่อนแก่เรา ที่จะกำจัดความยากจนข้นแค้นระดับแสนสาหัสสุด ๆ และกำจัดความตายจากโรคร้ายที่ป้องกันได้.

เมื่อหกสิบปีที่แล้ว, จอร์จ มาร์แชล [นายพลเมริกันซึ่งต่อมาดำรงทั้งตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมและรัฐมนตรีต่างประเทศ ] มาในพิธีประสาทปริญญานี้และได้แถลงเกี่ยวกับโครงการเพื่อช่วยเห ลือประเทศในย ุโรปหลังสงคราม [โลกครั้งที่ 2]. เขาพูดว่า ?ผมคิดว่าความยากลำบากอย่างหนึ่งได้แก่ปัญหานั้นแสนสลับซับซ้อน จนทำให้ข้อมูลจำนวนมหาศาลที่สื่อและวิทยุนำมาเสนอต่อสาธารณชนยา กเกินสำหรับค นทั่วไป ที่จะประเมินสถานการณ์ได้อย่างแจ้งชัด. จากระยะทางอันแสนไกลนี้ เป็นไปไม่เลยที่จะรู้ซึ้งถึงความหมายที่แท้จริงทั้งหมดของสถานก ารณ์.?

สามสิบปีหลังจากวันที่มาร์แชลกล่าวคำปราศรัย, เมื่อเพื่อนร่วมรุ่นของผมจบการศึกษาโดยปราศจากผม, เทคโนโลยีที่กำลังพัฒนาขึ้นมาใหม่จะทำให้โลกใบนี้เล็กลง, เปิดกว้างขึ้น, เห็นได้ง่ายขึ้น, ลดระยะทางลง.

การพัฒนาของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลราคา ต่ำทำให้เกิดโครงข่ายอันทรงพลังอย่างหน ึ่ง ซึ่งได้ปรับเปลี่ยนโอกาสเพื่อการเรียนรู้และเพื่อการติดต่อสื่อ สาร.

สิ่งมหัศจรรย์เกี่ยวกับโครงข่ายนี้ไม่จำกัดอยู่เฉพาะที่มันทำให ้ระยะทางหดหา ยไป และทำให้ทุกคนเป็นเพื่อนบ้านของคุณเท่านั้น. มันยังช่วยเพิ่มจำนวนของผู้ที่มีปัญญาเฉียบแหลมทั้งหลาย ที่เราจะให้ทำงานเพื่อแก้ปัญหาเดียวกันอีกด้วย และนั่นได้ยกระดับอัตราของนวัตกรรมให้สูงขึ้นอย่างไร้เทียมทานท ีเดียว.

ในขณะเดียวกัน, ต่อทุกคนในโลกที่เข้าถึงเทคโนโลยีนี้, จะมีอีกห้าคนที่เข้าไม่ถึง.
น ั่นหมายความว่าผู้มีปัญญาทางสร้างสรรค์จำนวนมากถูกปล่อยทิ้งไว้ นอกวงของการป รึกษาหารือนี้ นั่นหมายถึงคนฉลาดที่มีความรอบรู้อันเกิดจากการปฏิบัติงาน และจากประสบการณ์อันตรงกับปัญหาซึ่งไม่มีเทคโนโลยีสำหรับฝึกฝนต นเอง หรือมีส่วนร่วมในการให้แนวคิดแก่ชาวโลก.

เราต้องการให้คนจำนวนมากที่ สุดเท่าที่จะมากได้เข้าถึงเทคโนโลยีนี้, เพราะความก้าวหน้าเหล่านี้กำลังจุดชนวนให้เกิดการปฏิวัติในด้าน ที่มนุษยชาติ สามารถทำอะไรให้กันและกัน. มันไม่ได้ช่วยเฉพาะรัฐบาลเท่านั้น, แต่ยังช่วยมหาวิทยาลัย, บริษัท, องค์กรเล็ก ๆ, และบุคคล, ให้เข้าใจปัญหา, มองเห็นกลวิธี, และวัดผลของความพยายามของพวกเขาในด้านการแก้ปัญหาความหิวโหย, ความยากจน, และภาวะสิ้นหวังที่จอร์จ มาร์แชลล์ พูดถึงเมื่อ 60 ปีที่แล้ว.

ท่านสมาชิกของครอบครัวฮาร์วาร์ดครับ ณ ที่นี้มีการรวมตัวกันอันยิ่งใหญ่ของผู้ที่มีพรสวรรค์ทางปัญญาขอ งโลก.

รวมตัวกันเพื่ออะไรครับ ?

แน่นอนละที่คณาจารย์, ศิษย์เก่า, นักศึกษา, และผู้บริจาคทรัพย์ให้แก่ฮาร์วาร์ดได้ใช้พลังอำนาจของตนช่วยปรั บปรุงชีวิตขอ งคนที่นี่และทั่วโลก. แต่ว่าเราจะทำมากกว่านี้อีกได้ไหม ?
ฮาร์วาร์ดสามารถจะอุทิศพลังทางปัญญาของตนเพื่อช่วยปรับปรุงชีวิ ตของผู้คน ที่ไม่เคยแม้แต่จะได้ยินชื่อของตนได้ไหม ?

ผมใคร่จะขอสิ่งหนึ่งจากท่านคณบดี และท่านศาสตราจารย์ ? ผู้นำทางปัญญาของฮาร์วาร์ด นั่นคือ เมื่อท่านจ้างคณาจารย์, มอบตำแหน่งถาวรให้อาจารย์, ทบทวนหลักสูตร, และพิจารณาคุณสมบัติสำหรับประสาทปริญญา, กรุณาถามตัวของท่านเองดังนี้:

สติปัญญาชั้นยอดเยี่ยมของเรานั้นควรจะอุทิศให้แก่การแก้ปัญหาที ่หนักหนาสาหัสที่สุดของเราหรือไม่ ?

ฮาร์วาร์ดควรจะกระตุ้นคณาจารย์ให้ประจัญกับความไม่เสมอภาคที่หน ักหนาสาหัสที ่สุดของโลกหรือไม่ ? นักศึกษาของฮาร์วาร์ดควรจะเรียนรู้เกี่ยวกับความลึกล้ำของความย ากจนบนผืนโลก หรือไม่ ? ความแพร่หลายของความหิวโหยของชาวโลก ? ความขาดแคลนน้ำสะอาด ? เด็กผู้หญิงไร้โอกาสเรียนหนังสือ ? เด็กซึ่งตายจากโรคร้ายที่เราสามารถเยียวยาได้ ?

ผู้ที่มีอภิสิทธิ์มากที่สุดในโลกควรจะเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตขอ งผู้ที่มีอภิสิทธิ์ต่ำที่สุดในโลกหรือไม่ ?

นี่มิใช่คำถามเชิงเล่นคำ ? ท่านจะตอบด้วยนโยบายของท่าน.

คุณแม่ของผม, ผู้ซึ่งแสนจะภูมิใจเมื่อมหาวิทยาลัยแห่งนี้รับผมเข้าเรียน ไม่เคยเลิกกดดันผมให้ช่วยผู้อื่นให้มากขึ้น. ไม่กี่วันก่อนวันแต่งงานของผม, ท่านจัดงานเป็นเกียรติแก่เจ้าสาว, ซึ่งในงานนั้นเองที่ท่านอ่านจดหมายเกี่ยวกับชีวิตแต่งงานที่ท่า นเขียนถึงเมล ินดาออกมาดัง ๆ. คุณแม่ของผมกำลังป่วยหนักด้วยโรคมะเร็งในตอนนั้น, แต่ท่านเห็นโอกาสอีกครั้งที่จะส่งสารด้านแก่นคิดของท่าน, และในตอนจบจดหมายท่านพูดว่า ?จากผู้ที่ได้รับมากทั้งหลาย, มีความคาดหวังว่าพวกเขาจะให้มากด้วย?

เมื่อท่านพิจารณาสิ่งที่เราทั้ งหลายในที่นี้ได้รับ ? ในด้านพรสวรรค์, ด้านอภิสิทธ์, และด้านโอกาส โลกมีสิทธิ์คาดหวังจากเราอย่างแทบไม่จำกัด.

ในกรอบของความเป็นไปได้ในยุคนี้, ผมขอแนะนำบัณฑิตแต่ละคนในที่นี้ให้หยิบประเด็นขึ้นมาสักประเด็น ปัญหาที่สลับซับซ้อน, ความไม่เสมอภาคที่ลึกล้ำ, และสร้างความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับประเด็นนั้นขึ้นมา. หากคุณทำให้มันเป็นจุดมุ่งเน้นในชีวิตการงานของคุณ, นั่นจะวิเศษยิ่ง. แต่คุณไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นเพื่อให้เกิดผลดี. ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์, คุณอาจใช้อานุภาพที่กำลังเพิ่มขึ้นของระบบอินเตอร์เนตเพื่อเรีย นรู้, สืบหาผู้ที่มีความสนใจคล้ายกัน,
ทำความเข้าใจถึงอุปสรรค, และหาทางทะลุทะลวงมัน.

อย่าให้ความสลับซับซ้อนยับยั้งคุณ. จงเป็นนักเคลื่อนไหว. เลือกประจัญกับความไม่เสมอภาคที่ร้ายแรง. มันจะเป็นประสบการณ์อันยิ่งใหญ่ในชีวิตของคุณ.

คุณ ๆ บัณฑิตทั้งหลายเติบใหญ่ขึ้นมาในช่วงเวลาอันน่าทึ่งยิ่ง. เมื่อคุณออกจากฮาร์วาร์ดไป, คุณมีเทคโนโลยีที่สมาชิกในรุ่นผมไม่เคยมี. คุณมีความตระหนักในความไม่เสมอภาคกันในโลก, ซึ่งเราไม่มี. และกับความตระหนักนั้น, คุณคงจะมีจิตวิญญาณที่รอบรู้ซึ่งจะตามหลอนคุณหากคุณทอดทิ้งคนที ่ชีวิตของเขา คุณอาจเปลี่ยนได้ด้วยความพยายามเพียงน้อยนิด.
คุณมีมากกว่าเรามี. คุณต้องเริ่มให้เร็วกว่า, และสู้ต่อไปให้ยาวนานกว่า.

ในเมื่อคุณรู้สิ่งที่คุณรู้, คุณจะงอมืองอเท้าอยู่ได้อย่างไร ?

และผมหวังว่าคุณจะกลับมาที่ฮาร์วาร์ดนี่อีก 30 ปีจากวันนี้ไป และมาไตร่ตรองถึงการใช้พรสวรรค์และพลังงานของคุณ. ผมหวังว่าคุณจะวินิจฉัยตัวคุณเองไม่เฉพาะในด้านของความสำเร็จใน อาชีพเท่านั้น, แต่ในด้านผลงานของคุณที่เกี่ยวกับความไม่เสมอภาคกันอันล้ำลึกที ่สุดด้วย ? ในด้านที่เกี่ยวกับคุณได้ปฏิบัติต่อคนที่อยู่คนละฟากโลกได้ดีแค ่ไหนในเมื่อคนเหล่านั้น ไม่มีอะไรร่วมกับคุณเลยเว้นแต่ความเป็นมนุษย์ของพวกเขาเท่านั้น .

ขอให้โชคดีครับ.

By : bingud   ( IP : 125.24.77.xxx ) (Read 964 | Answer 0 2009-10-06 22:55:22 )
 

จำนวนผู้เข้าชมเว็บทั้งหมด 230570 คน

ชมรมศิษย์เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัย รุ่นที่ 96 100/397-398 หมู่บ้านมณียา ถ.รัตนาธิเบศธ์ ซ.ท่าอิฐ ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
ติดต่อท่านประธาน > kematat.p@hotmail.com ติดต่อเว็บมาสเตอร์ >webmaster.osk@gmail.com
Produced By Permpoon C. and Powered by: StartUp Design and Network Co.,Ltd.