คลิกเลือกไปหน้าแรก
ชาวสวน'92เข้าสูระบบ
คลิกดูกำหนดการได้ที่วันที่ในปฏิทิน
ธันวาคม - 2567
พฤ
อา
25
26
27
28
29
30
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
1
2
3
4
5
 

@คณะกรรมการชมรม
@ตัวแทน/ผู้ประสานงาน
@วิสัยทัศน์ ค่านิยม ยุทธศาสตร์
@ระเบียบการบริหารงาน
@ระเบียบว่าด้วยเงิน
@รักรุ่นจริงไม่ทิ้งกัน
@บัญชีสถานะการเงิน
@เพลงสวน

คลิกเพื่อเลือกชมและบันทึกข้อความ
คลิกเพื่อดูหรือ post ข่าว
 คลิกเพื่อดูหรือ post จดหมายเวียน
คลิกเพื่อดูหรือ post กำหนดการทำบุญบริจาคโลหิต
คลิกเพื่อดูหรือ post เข้าบอร์ดเพื่อนช่วยเพื่อน
คลิกเพื่อดูหรือ post รายละเอียดธุรกิจของเพื่อน
คลิกเพื่อดูหรือ post คลิปโดนๆของชาวสวน 96
คลิกเพื่อดูหรือ post ภาพกิจกรรมของชาวสวน 96
คลิกเพื่อฝากข่าวสารถึงท่านประธาน
คลิกเพื่อฝากข่าวสารถึง webmaster
คลิกเพื่อดูหรือ postข่าวสารทางวิชาการจากสวน 96
คลิกเพื่อดูหรือ postคำคม,ปรัชญาชีวิต
คลิกเพื่อดูหรือ postเรื่องซุบซิบนินทา
คลิกเพื่อดูหรือ postเรื่องของครอบครัวสวน  96
คลิกเพื่อดูหรือ postเรื่องสันทนาการ

  คลิกเพื่อลิ้งค์ไปสู่หน้าเวปสวนกุหลาบ
  คลิกเพื่อลิ้งค์ไปสู่หน้าเวป OSKNETWORK


หัวข้อ :เกี่ยวกับแอมเวย์   [ No. 25 ]  
รายละเอียด :
อบ: Thu May 26, 2005 3:48 am ชื่อกระทู้: เกี่ยวกับแอมเวย์ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)
>From: "baibua namsug"
>Subject: Fw: real experience from amway
>
>นี่คือเรื่องจริงจากประสบการณ์ของคนที่เคยทำ Amway มา ขอบคุณ
>คุณผู้ให้ประสบการ์อันนี้
>คนเรามักอยากรวยโดยไม่ต้องทำงานหนักเป็นจริงได้หรอ???
>
>อย่าโดนเค้าหลอก และอย่าหลอกตัวเอง
>คนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานทุกคนเป็นคนรับผิดชอบ
>ขยันขันแข็ง มีประสบการณ์ ความรู้ในการทำงานนั้นๆ
>พัฒนาจนเค้าสามารถประสบความสำเร็จได้
>
>เช่น เบิร์ด ธงชัย(ร้องเพลงเก่ง) , บิลเก็ต (เจ้าของmicrosoft)
>
>หรือ แม้กระทั่งนักฟุตบอลอย่าง ซีดาน ซึ่งทุกคนล้วนย่อมต้องฝึกฝน
และทำงานหนัก
>กว่าจะถึงจุดนั้น
>
>วันแรกที่เข้าไปฟังแอมเวย์และหลงเชื่อเพราะเราเชื่อที่เค้าล้างสมองเราว่าแอมเวย์เป็นอาชีพอิสระ
>งานสบาย เน้นความสัมพันธ์
>
>ไม่ต้องทำงานหนักแต่สามารถมีรายได้เดือนละเป็นแสน หรือ เป็นล้าน
ถ้าถึงขั้น
>ยมทูต เอ้ย มงกุฏฑูต เราและคนมากมายเชื่อเค้าบอกว่าน้องคิดดูนะ
>
>ว่าเดือนๆนึงน้องซื้อยาสีฟัน 4 หลอด และต่อมา น้องแนะนำให้คน4คน
>เพื่อนหรือญาติน้อง ให้ซื้อยาสีฟัน และคน4คน
>
>ก็แนะนำไปอีก4คน เดือนๆนึงน้องจะได้รายได้โดยไม่ต้องเหนื่อยออกแรง
>แค่แนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนเป็นงานสบายๆ ไม่ต้องทำงานหนัก
>
>ไม่ต้องตื่นเช้า ไม่ต้องมีเจ้านาย ไม่ต้องตอกบัตร
>
>แล้วเราก็หลงเชื่อเค้าด้วยความโง่เขลา พร้อมๆกับคนอีกมากมาย
>ณ
>วันนั้นเราก็ได้สมัครสมาชิกกับเค้าไปพร้อมกับมีความฝันตามที่เค้าได้เล่าเรื่อง
>ฉายสไลด์
>
>เพื่อให้ความฝันและจินตนาการเราบรรเจิด ทุกคนที่ House(กลุ่ม)
ดีกับเรามาก
>มีการแลกเบอร์กัน พูดคุยสนุกสนาน พร้อมนัดกันว่า
>จะพาเราทัวร์คลังสินค้าแอมเวย์
>
>เพื่อจะได้ให้เรารู้จักแอมเวย์ดีขึ้น โดยคนที่จะพาเราไป ก็คือ Uplineเรา
>ซึ่งก็คือเพื่อนเราที่ชวนมาวันรุ่งขึ้น
>เราก็ได้ไปทัวร์พร้อมกับได้รับการบอกว่า เรา
>น่าจะซื้อสินค้าแอมเวย์ใช้เพื่อที่จะได้รู้ว่าสินค้าแอมเวย์ดียังไง
>และเหตุผลสำคัญคือ เราต้องรู้ในตัวสินค้า ก่อนที่จะไปแนะนำคนอื่นได้
>ซึ่งเราก็เห็นด้วยคล้อยตาม วันนั้น
>เราหมดเงินไปประมาณ สามพันเกือบๆสี่พัน
รวมค่าสมัครเราเริ่มไปHouseบ่อยขึ้น
>ไปคลังแอมเวย์
>ไปประชุม ซึ่งUplineเรา และพวกพี่ที่เฮ้าส์ บอกเราว่าต้องมา ห้ามขาด
>เพราะเค้าจะมีการสาธิตสินค้าให้เราดู พร้อมบรรยาย และด้วยเหตุผลว่า
>ถ้าเราไม่ดูแล้วเราจะไปสาธิตให้ลูกค้าดูได้ไง
>แล้วจะแนะนำสิ่งดีๆให้ลูกค้าได้ยังไง เรายังเรียนอยู่
แต่ด้วยจิตใจมุ่งมั่น
>เราเริ่มขาดเรียน
>เราเริ่มกลับบ้านดึก ไม่ใช่ดึกธรรมดานะ ดึกแบบตีสอง ตีสาม
>เราเริ่มโดนที่บ้านว่า เเละทุกครั้งที่เราบอกที่เฮ้าส์ ทุกคนจะปลอบใจเรา
>บอกว่า ไว้วันที่น้องสำเร็จกับแอมเวย์
>ที่บ้านน้องจะเข้าใจเอง พ่อแม่จะได้ไปเที่ยวเมืองนอก
>น้องมีเงินให้พ่อแม่ใช้สบายๆไม่ต้องให้เค้าทำงาน ตอนนี้ก็อดทนไปก่อน
>ถ้าเราโฟกัสกับแอมเวย์ให้มั่น วันที่เราสำเร็จก็จะใกล้ขึ้น
>ตอนนี้น้องเดินมาเกือบครึ่งทางแล้ว อย่าถ้อถอย อย่าท้อแท้
>ต้องสู้ ว่าเราสำเร็จได้ และอีกครั้ง
>ที่เราโง่เขลาเราเริ่มไปHouseทุกๆอาทิตย์ทุกครั้งที่ไป
>ก็จะมีการพูดปลุกใจ ปลุกระดม เปิดเพลงประมาณว่า We are the champion
>อะไรประมาณนั้น
>เราเริ่มซื้อของใหญ่ และ แพง
>โดยบังคับให้ที่บ้านซื้อพร้อมกับบอกว่ามันดีมากๆๆๆ เพราะทุกคนที่แอมเวย์
>บอกว่ามันคือสุดยอดสินค้า ที่ราคานั้นแม้จะสูง แต่คุณภาพสุดคุ้ม
นั่นก็คือ
>เครื่องกรองน้ำ และ เครื่องกรองอากาศ
>เราซื้อที่ละอย่าง เพราะเราต้องพยายามหว่านล้อมที่บ้าน ถึงขั้นทะเลาะกัน
>เพื่อจะเอา
>เพราะเราเชื่อแอมเวย์ เชื่อพี่ๆและUplineว่า พ่อแม่เราจะมีสุขภาพดีขึ้น
>ราคาของสองเครื่องนี้รวมกัน ก็ประมาณเกือบ
>ห้าหมื่นบาทเราเริ่มไปสัมนาแอมเวย์ที่ต่างจังหวัดพร้อมกับ
>ที่กลุ่ม ซึ่งเดือนนึงจะจัด สองครั้ง โดยครั้งๆนึง ประมาณ
>พันกว่าบาทเหตุผลที่เราได้ถูกบอกว่าต้องไปก็คือ
>เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสินค้ามากขึ้น
>มีการบรรยายที่มีประโยชน์มากพร้อมกิจกรรม เกี่ยวกับตัวสินค้า และ
>ได้พบกับวิทยากรที่ประสบความสำเร็จกับแอมเวย์แล้ว
>เป็นระดับเพชร มงกุฏฑูตเราก็ไป
>
>บางครั้ง ที่มหาลัยใกล้สอบ มีติวกันกับเพื่อน เราก็ไม่ได้ติว
>เพราะเราต้องไปสัมนาพัทยา
>เพื่อนเราเก็บชีตไว้ให้ แต่เราก็ไม่มีเวลาอ่านนัก
>เพราะเรากว่าจะกลับก็ตีสองตีสามแล้ว
>เรียนเราก็โดด เพราะเราโฟกัส ว่าวันนี้เราจะต้องไป เฮ้าส์ตอนเย็น และ
>เราเริ่มนัดลูกค้าตอนกลางวัน ซึ่งก็เป็นญาติๆของเรา
>แผนทุกอย่างถูกวางโดยUpline ของเรา
>และรู้มั๊ยหนึ่งในวิธีที่จะสำเร็จกับแอมเวย์ได้ก็คือต้องเชื่อ
>Upline จริงๆๆๆ เรามีชีทด้วย ได้มาจากสัมนา มันบ้ามากกก
>แต่ตอนนั้นเราก็เชื่อ เพราะเราโดน
>บิ้วทุกวันจากการไปเฮ้าส์มันคือหนึ่งในวิธีการสะกดจิต หรือ ล้าง
>สมอง หรือ อะไรก็ได้ ที่ทำให้เราไม่รับรู้ความจริงจากโลกภายนอก
>แม้เพื่อนหรือญาติพ่อแม่ จะบอกอะไรยังไงเราก็ตามเราไม่เชื่อ
เราเหมือนถูกผีสิง
>เราต้องไปเฮ้าส์ทุกวันเพราะที่นั่นมีคนที่เข้าใจเรามี จุดหมายเดียวกับเรา
>ต้องการสำเร็จเหมือนเรา
>แล้ววันนึงคนที่หัวเราะเรา จะหันมามองเราด้วยความทึ่ง และ ยอมรับเรา
>ที่เเอมเวย์มีแต่เพื่อนเเท้
>เป็นครอบครัวนั่นคือสิ่งที่เรารู้สึกได้ ซึ่งเรากำลังจะเล่าแล้วล่ะ
>ว่าต่อไปที่เราค้นพบความจริงเป็นไงเราเริ่มกลายเป็นสาวกแอมเวย์แล้วอย่างเต็มรูปแบบ
>ทุกๆวัน เราพูดแต่เรื่องแอมเวย์เราใช้ของทุกอย่างที่เป็นแอมเวย์ ยาสีฟัน
สบู่
>น้ำยาล้างจาน แฟ้บ น้ำ อากาศ
>และทุกอย่างที่แอมเวย์จัดจำหน่าย เช่น กระดาษทิชชู่ หลอดไฟฟิลลิปส์
โอรีโอ
>น้ำมัน ข้าวสาร ทุกๆๆ
>อย่างในชีวิตเราคือแอมเวย์ที่เฮ้าส์จะมีการพูดเปลี่ยนเวรกัน
>เราได้รับมอบหมายให้พูดเรื่อง แอมเวย์กับ ชีวิตประจำวัน
>ซึ่งตอนนั้นเราเล่าอย่างภาคภูมิใจมาก
>ว่าเราบริโภคทุกอย่างเป็นแอมเวย์จริงๆ เรา
เสร็จขั้นตอนการซื้อของมาใช้แล้ว
>ด้วยการหมดเงินไปประมาณแสนหนึ่งถ้าจะได้เราเริ่มกลายเป็นดาวดวงใหม่
>ที่ทุกคนตั้งแต่ อัพไลน์ของอัพไลน์ ต้องมาสนใจเป็นพิเศษ
>ก็แน่สิ
>เราสร้างยอดให้เค้าหนิทุกวันเราต้องเข้าเฮ้าส์แล้วพี่อัพไลน์พวกนี้จะเรียกเราวางแผนกลยุทธการขาย
>เค้าเริ่มสอนให้เราชวนคนมาทำ มาสมัครโดยให้เราลิสต์รายชื่อเพื่อนมา คน
>แล้วชวนมาให้ได้ มาที่ เฮ้าส์แล้วเดี๋ยวเค้าจะจัดการให้เอง
>เราชวนเพื่อนสนิทเรามา สอง คน
>จริงๆชวนเจ็ดแต่มาแค่ สอง
>สองคนนี้รักเรามากเราก็รู้ว่าเค้ามาเพราะเกรงใจและไม่อยากให้เราเสียใจ
>เค้ามาฟังๆ โดยที่อัพไลน์เราเป็นคนบรรยาย เราอยู่อีกห้องนึง
>เชื่อมั๊ยว่าคนเป็นสิบๆมาช่วยเราคิดว่าจะทำยังให้เค้าสมัคร มา
>บอกทริคมากมายช่วยเรา
บ้างก็บอกว่าให้เค้าจ่ายเงินเลยเพราะเค้ากำลังบิ้วได้ที่
>คือกำลังมีอารมณ์ร่วม
>ถ้าปล่อยไปพรุ่งนี้มักจะหายจ้อย เรารู้สึกว่าเราต้องทำให้ได้
>เราต้องเริ่มต้นได้เเล้ว และเป็นจริง
>
>เราบังคับเพื่อนเราสองคนให้สมัคร โดยเราเค้าว่าลองดูก็ไม่เสียหาย
มันดีจริงๆ
>และเราก็อยากให้เพื่อนรัก เราได้เจอในสิ่งดีๆอย่างที่เราเจอ
เพื่อนเราก็เงียบๆ
>และก็ตกปากรับคำสมัคร หลังจากสองคนนั้นกลับไป
>ทุกคนต่างมายินดีกับเราในก้าวแรกพร้อมกับคำพูดเด็ด
น้องมีเพชรในมือน้องแล้วนะ
>อย่าให้หลุดมือ
>สองคนนั้นสามารถเป็นเพชรในสายงานน้องได้ ขึ้นอยู่กับน้อง
>
>แล้วนะว่าอยากสำเร็จหรือไม่สำเร็จและแล้ววันนั้นเราก็ได้อยู่วางแผนกับอัพไลน์และอัพไลน์ของอัพไลน์จน
>ดึกวางแผนว่าจะทำยังไงกับเพื่อนสองคนนี่ดีจะทำยังไงให้เค้ามาทำเต็มตัว
>ให้เค้าซื้อเครื่องกรองอากาศ กรองน้ำภายในเดือนนี้
เพราะเราทำยอดไว้เยอะแล้ว
>
>ถ้ามียอดสองคนนี้มาเพิ่ม เราก็ได้เบรค ก็คือทำ ยอดทะลุเป้า
ได้เลื่อนตำแหน่ง
>
>ซึ่งทุกคนบอกเราว่าต้องคว้าโอกาสนี้ให้ได้เพราะอีกไม่กี่เปอร์เซนต์เราก็จะเบรคแล้ว
>
>ก่อนที่เราจะจัดการเพื่อนสองคนของเราที่ยอมสมัครเป็นดาวไลน์เรา
>เราได้ถูกวางแผน
>
>กลยุทธ การเยี่ยมบ้านเพื่อนๆ
>เพื่อขายสินค้าโดยUplineเราเป็นคนสอนวิธีให้เราทุกอย่าง
>เริ่มจากจะชวนเค้ายังไง จะทำยังไงให้เค้ายอมให้เราไปสาธิตสินค้า
>
>อัพไลน์เราบอกว่า
>เค้าจะจัดการสาธิตให้เองและไปพร้อมเราเพราะเค้าเก่งแล้วพูดเก่งด้วย
ก็แน่สิ
>เค้าเป็นดารานี่ไม่เก่งได้ไง เค้าบอกว่าขอแค่เราโทรไปนัดคนให้ได้
>ที่เหลือเค้าจัดการเองเราก็เลยโทรไปหาเพื่อนๆ
>แรกๆเราก็บอกเค้าตรงๆว่าเราจะเค้าไปสาธิตสินค้าแอมเวย์ ซึ่งเพื่อนๆ
ก็จะปฎิเสธ
>อ้างว่าไม่ว่าง ติดนู่นนี่
>พ่อแม่เค้าก็ไม่ว่าง อย่ามาเลยเสียเวลา เรากลับไปบอกอัพไลน์เรา
ว่าเราทำไม่ได้
>
>ไม่มีใครสนใจอัพไลน์เรา ปลอบใจเราพร้อมสอน ทริคการโกหก
>ต่างๆนานาโดยให้เริ่มด้วยมุขแรก
>เค้าสาธิตให้ดูสด สด
>สวัสดี อาร์ทเราดามนะ เป็นไงบ้าง
โอโห้ไม่เจอกันตั้งแต่มหาลัยเลยนะหลายปีอยู่
>นายเป็นไง สบายดีนะ
>
>ที่บ้านพ่อแม่สบายดีนะ ทำงานอะไรอยู่ อืม เผอิญเราผ่านแถวบ้านนาย
>เราเลยนึกถึงว่าทุกคนสบาย
>ดีมั๊ย คุณพ่อยังทำงานเป็นตำรวจอยู่รึปล่าว อืม เกษียนแล้วหรอ
แล้วคุณแม่ล่ะ
>อ้าว แล้วน้องนายเรียนที่
>ไหน อืมดีนะ ทุกคนสบายดี เราก็ดีใจ แล้วนายปกติเลิกงานกี่โมงล่ะ อืม
>อย่างงี้ช่วงสองทุ่มก็ถึงบ้านแล้ว สิ ดีดี
>เผื่อนเราแวะเข้าไปเยี่ยมคุณพ่อคุณแม่ด้วย อยากเจอน่ะ
>มีเบอร์มือถือมั๊ย แล้วเบอร์ที่ทำงานล่ะ โอเค เดี๋ยวค่อยคุยกันนะ บาย
>
>ขั้นตอนนี้ เค้าเรียกกันว่า เช็คฟอร์ม เก็บรายละเอียด "Form Check"
>เป็นขั้นตอนสากลทำเพื่อเก็บรายละเอียดของสมาชิกในบ้าน
>เพื่อสร้างความสัมพันธ์ครั้งแรกให้ประทับใจ
>ให้เค้ารู้สึกว่าเรามาดีไม่ได้ต้องการขายของ
>มุขนี้จะใช้กับคนที่ไม่ได้เจอมานาน และ ไม่รู้ว่าเราทำแอมเวย์
เพราะถ้าเค้ารู้
>เค้าก็คงรีบวางหูแล้วล่ะ เราเริ่มหลอกเพื่อนสำเร็จ ด้วยมุขแรก
หรือมุขที่ว่า
>เราพึ่งไปฟังบรรยายเกี่ยวกับสุขภาพมา ดีมากๆเลย
>เราอยากเค้าไปแนะนำคุณพ่อคุณแม่เธอน่ะ
>มีประโยชน์มากๆเพื่อนกลุ่มแรกๆที่เรานัด
>เค้ายังไม่ค่อยรู้มากนักว่าเราทำแอมเวย์
>จึงใช้ได้ผลกับมุขนี้
ก่อนไปเราก็จะต้องนั่งลิสต์สมาชิกในบ้านเพื่อนคนนั้นๆ
>ให้อัพไลน์ดู
>เพื่อที่จะได้เตรียมของไปขายถูก เช่น ถ้าเค้ามีน้องที่เป็นเด็กอ่อน
เราควรขาย
>เครื่องกรองอากาศ อาหารเสริม
>พร้อมกับเตรียมโบรชัวร์ต่างๆไปให้พร้อม
>
>แน่นอน เราต้องอย่ายอมแพ้ ถ้าเค้าทำท่าไม่สนใจระหว่างการสาธิต
>ให้เราทำทุกวิถีทางเพื่อให้เค้าสนใจให้ได้ และวิธีสุดท้ายที่มักได้ผล
ก็คือ
>ทิ้งสินค้าไว้ให้เค้าทดลอง
>หนูอยากให้น้องมีสุขภาพดีจริงๆเห็นคุณแม่บอกว่าน้องเค้าชอบจามเวลานอน
>มันไม่ดีนะคะ โรคภูมิแพ้ เนี่ย ป้องกันและรักษาตั้งแต่เด็กๆจะดีกว่า
>เครื่องกรองอากาศเนี่ยได้รับการพิสูจน์แล้วว่ากรองได้ถึง99.999 เปอร์เซน
>
>ถ้าตอนนี้ยังไม่สนใจซื้อไม่เป็นไรค่ะ ฝากไว้ให้ทดลองก่อน
>เดี๋ยวอาทิตย์หน้าหนูผ่าน
>มาแถวนี้ จะแวะมารับกลับ หนูอยากให้น้องได้อากาศบริสุทธิ์ค่ะ จะได้ไม่จาม
>แน่นอน
>
>หนึ่งในห้า มักเกิดความเกรงใจและซื้อสินค้ากับเราในที่สุด
>ซึ่งเพื่อนเราไปพูดให้เพื่อนเราอีกทีฟัง
ว่าแม่เค้าซื้อก็เพราะตัดความรำคาญ
>จะได้ไม่มาตื้ออีกตอนนั้นเรา ได้ฟัง อัพไลน์เราบอกว่า ไม่ต้องสนใจ
>เพราะเราทำหน้าที่ของเราสมบูรณ์แล้ว คือแนะนำสิ่งดีๆให้กับคน
>ที่เรารัก ทั้งๆที่จริงๆน่าจะพูดว่า ไม่ต้องสนใจ ก็เค้าซื้อแล้ว
จ่ายเงินแล้ว
>เรายอดเพิ่มแล้ว
>หันไปหาคนอื่นดีกว่า แอมเวย์เก่งมากเรื่องจิตวิทยา
>
>เวลาผ่านไปประมาณครึ่งปีผลการเรียนของเราเทอมนั้นตกหนึ่งตัว
ดร็อปหนึ่งตัว
>เหลือเรียน 3 ตัว ซึ่ง 3 ตัวนั้นเรากิน C,C,D ดร็อปเพราะ ลืมไปสอบQuiz
>เก็บคะแนนก็เลยดร็อปเพราะคิดว่าสู้ต่อไปคงได้แค่ ด็อก
>อีกอย่างวิชานั้นเรียนเช้า
>ไปเรียนก้ไม่ไหวเพราะกลับก็เกือบเช้าแล้ว ดร็อปดีกว่าอัพไลน์บอกว่า
>เรียนเมื่อไหร่ก็ได้ แก่แล้วก็ยังเรียนได้ การศึกษาไม่จำกัดอายุ
>
>จบตรีมาใช่ว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิต โฟกัสกับสิ่งที่เราทำดีกว่า
>เรามาครึ่งทางแล้วแน่นอน
>หมดเงินไปก็สองสามแสนแล้วนี่จุดนี้ เราเริ่มกู้ ญาติที่เราสนิท
>โดยจะผ่อนชำระเค้าเดือนละ ห้าพัน เค้าไม่คิดดอกเพราะเค้ารักเรา
>เหตุผลของเราก็คือ เรากำลังทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งทุกธุรกิจต้องลงทุน
>ฉะนั้นการกู้หนี้ยืมสิน
ของพวกทำแอมเวย์เป็นเรื่องธรรมดาเพราะมันเป็นเงินลงทุน
>ยังไงๆก็ได้คืนแน่นอนอยู่แล้วจุดนี้ เเหละเราเริ่มติดบ่วงติดหนี้แล้ว
>ตอนนี้เรามีดาวไลน์ สามคน สองคนไม่ทำงาน สมัครเพราะความเกรงใจ ส่วนอีกคน
>เป็นคนไฟแรง ประมาณเรา อ้อ
>เราไม่ได้โชคดีขนาดว่าเจอเพชรในตมง่ายอะไรขนาดนั้นนะเราโทรหาเพื่อนประมาณร้อ
>คนเห็นจะได้ รวมญาติด้วย และรวมเพื่อนของเพื่อนด้วยทุกคนเริ่มรำคาญเรา
>บางคนยอมฟังเรา บาง
>คนรีบขอวาง บางคนไม่รับโทรศัพท์เราเลย
>เพราะเราพูดแต่เรื่องชวนเค้าไปสัมนาเราเสียเงินเยอะมากๆๆๆจากหัวข้อใหญ่ๆที่จะเล่าให้ฟังนะ
>หนึ่ง.... เราเริ่มกักตุนสินค้า เพราะเราชวนใครไม่ได้ ขายได้ก็ไม่มาก
>
>แต่เราต้องการเบรคทำยอด ติดกัน หกเดือน เพื่อเลื่อนขั้นเป็น ดีดี
>ซึ่งก็จัดว่าเป็นตำแหน่งที่เกือบๆใกล้ๆเพชร ทำยังไงล่ะ ใครจะ
>ยอมให้เรากู้ แอมเวย์มีวิธี ใครๆก็ทำกัน
>
>บัตร First Choice ไง กับ บัตร Credit Kasikorn Thai Amway
>=ขั้นแรก เครดิตการ์ด ก็รูดเต็มวงเงิน
>แบกเครื่องกรองน้ำเต็มคันรถมาเก็บไว้ที่บ้าน
>=ขั้นต่อมา สมัครบัตรเฟิร์สชอยส์ ซึ่งสามารถซื้อเครื่องกรองน้ำอากาศโดย
>เค้ามีตารางให้ผ่อนเป็นงวดๆ อ๊ะอ๊ะ ไม่ใช่แค่บัตรเดียว
>อัพไลน์เราบอกว่า ถ้าเรามีความรับผิดชอบอย่าไปกลัวเลย
>ให้เราไปหาญาติแล้วเอาใบสมัครเฟิร์สชอยส์ไปให้เค้าสมัครและเซ็น
>แล้วให้เอามาซื้อเครื่องกรองน้ำตุน ๆเพื่อเบรคให้ได้ไม่ต้องกลัวน้อง
ใครๆก็ทำ
>พี่มีอยู่ 12 ใบ พ่อ แม่ ลุง ป้า น้า อา เพื่อน แฟนเพื่อน
>พี่ชายเพือนยอดเงินในแต่ละใบก็หลักหมื่นสิคะ
>
>ถ้าใช้เต็มวงเงิน ก็หลายแสนที่พี่เค้าเป็นหนี้ แต่เค้าบอกว่าคุ้มแสนคุ้ม
>กับการรักษาโอกาสนี้ไว้ เพราะเราเดิมมาเกือบถึงเส้นชัยแล้ว
>เราไม่มีทางเลือก ถ้ารักจะเป็นนักธุรกิจ ต้องกล้าเสี่ยง
>รับผิดชอบหลังจากนี้ต้องสัญญากับตัวเองว่าจะทำงานหนัก
>ออกขายทุกวัน เอ๊ะ เริ่มขัดแย้งกับตอนที่ชวนมาทำใหม่ๆนี่
ตอนแรกบอกงานสบาย ๆๆ
>ไม่ต้องเหนือย มีเงินเดือนๆละเป็นแสนน่ เอ๊ะ
แต่ตอนนี้หนูเริ่มติดหนี้เป็นแสนๆ
>อ้อ
>อัพไลน์คนนี้ก็ติดหนี้ค่ะ ห้าแสนน่าจะได้ แกเป็นเพชรนะ แต่ติดหนี้
>สรุป ด้วยความยังโง่อยู่ หนูไปล่าบัตรเฟิร์สชอยส์จากญาติๆมาได้ 10ใบ
>พร้อมกับมีเครื่องกรองน้ำ 9ตัว กรองอากาศอีก 7 ตัว และเครื่องสำอางค์
>อาหารเสริมอีกเป็นโกดัง เริ่มสมัครบัตรเครดิต
>เพราะอ้างได้ว่ามีเงินเดือนจากแอมเวย์ ไปขอใบรับรองเงินเดือนได้
>เรามีบัตรเครดิตทุกธนาคาร
>และใช้เต็มวงเงินทุกธนาคาร สุดท้าย ได้ตำแหน่งค่ะ เป็น ดีดี
>
>มีหนี้ทั้งหมดไม่รวมที่พ่อแม่ช่วยซื้อตอนต้น 582,000 บาท
>
>เราเริ่มกลายเป็นคนน่าสงสาร เพราะเพื่อนสนิทเรารู้ว่าเราเป็นหนี้
>ข่าวเริ่มแพร่ปากต่อปาก เพื่อนเรามาช่วยกันซื้อครีมคนละขวดสองขวด
>ถึงตอนนี้เราหยุดสต๊อคของแล้วเพราะเรามีหนี้เยอะ อัพไลน์เราพูด
>แต่ว่าให้เราลิสต์รายชื่อเพื่อนมา แล้วเค้าจะช่วยขาย
>เชื่อมั๊ยว่าเราเหมือนเป็นโรคจิต เวลาเรียนเราก็ นั่งลิสต์ชื่อเพื่อน
>วิธีก็คือ ลิสต์เป็นชื่อเพื่อนมา ห้าสิบคน
>แล้วหัวบนสุดก็เป็นชื่อสินค้าตีตารางเป็นช่องๆ แล้วติ๊กดูว่าเพื่อน
>
>คนนี้น่าจะขายสินค้าตัวไหน เราทำตลอด รถติดก็ทำ นั่งเรียนก็ทำ
อยู่บ้านก็ทำ
>ก่อนนอนก็คิด เชื่อมั๊ยว่าเราปล่อยสินค้าไม่ได้เลย
>เพราะช่วงนั้นเป็นช่วงใกล้ปิดยอดปีบัญชี
>ทุกคนสต๊อคเหมือนกันหมด ทุกคนของค้างเหมือนกันหมด
ต้องการปล่อยของเหมือนกัน
>ขายยิ่งยากหนัก
>ยิ่งหาดาวไลน์เพิ่มยิ่งยาก เพราะเพื่อน
>เราเค้ารู้กันหมดแล้วนี่ว่าเราไปทำแอมเวย์แล้วติดหนี้ติดสินเยอะขนาดไหน
>เรากลุ้มใจมาก แต่ดีที่เพื่อน ที่ครั้งหนึ่งเราเคยมองว่า
>คนพวกเนี่ยไม่ใช่เพื่อนแท้ ไม่เข้าใจเรา
>รังเกียจเรา หนีหน้าเราเพราะเรา แค่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้พวกเค้า
>เค้าหันกลับมาหาเรา
>เค้าเต็มใจที่จะช่วยเรา บางคนซื้อเครื่องกรอง น้ำเราด้วย
>โดยที่เราไม่ต้องไปสาธิตเค้าเลย เพราะเค้าอยากช่วย
>ในขณะที่ เพื่อนที่เราเคยคิดว่าเป็น ครอบครัว
>เพื่อนแท้ง่วนอยู่กับการปล่อยสินค้าที่ตัวเองสต๊อคเหมือนกัน
>วันวันก็จะพูดแต่เรื่องของ ปล่อยของ
และไม่เคยสนใจว่าใครจะเดือดร้อนกว่าใคร
>เพื่อนแท้จริงๆ
>และวิธีที่แย่มากๆที่พวกเค้าทำ แต่เราไม่ได้ทำนะ
เค้าไปหลอกคนมาเป็นดาวไลน์
>พยายามให้คนพวกนั้นซื้อสินค้า
>และให้ดาวไลน์เค้าซื้อผ่านเค้า โดยเค้า อ้างว่าสะดวกกว่า
>จริงๆแล้วเค้าไม่ได้ไปซื้อของที่คลังสินค้าให้
>แต่เค้าเอาของที่ตัวเองสต๊อคไว้ให้แทน วิธีนี้เรียกกันว่า
>ปล่อยของลงองกรพอดาวไลน์ถามว่า
>เอ๊ะทำไมไปเช็คในอินเตอร์เน็ตแล้วไม่มียอดไม่มีพีวีแต้มเลยเค้าก็จะบอกว่า
>อ๋อระบบขัดข้อง แต่เเอมเวย์โทรมาบอกแล้ว ว่า จะเพิ่มยอดให้ทีหลัง
>แต่มุขนี้ก็ใช้ได้ผลนิดหน่อย สำหรับคนโง่ๆเท่านั้น เราเริ่มรับรู้แล้ว
>ว่าอะไรที่เราคิดไว้มันช่างโง่เขลา
>เราเริ่มไม่ไปประชุม ไม่ไปเฮ้าส์ ไม่ไปสัมนา
>
>เริ่มกลับไปใช้ชิวิตกับเพื่อนที่มหาลัย ติวหนังสือ
>
>เราเริ่มค้นพบเพื่อนที่แท้จริง ความสนุกในชีวติได้กลับมาอีกครั้ง
>
>กลับบ้านเร็วขึ้น พ่อแม่เราแฮปปี้ที่เราเริ่มคิดได้
>
>เราทำงานพิเศษรับสอนพิเศษอีกทางเพื่อผ่อนหนี้
>เราพยายามบอกปัดพวกที่แอมเวย์ว่าเราไม่ว่าง
>เราเริ่มค้นพบความจริงที่เราโง่เขลามานาน
>ตอนนี้ห่างจากตอนที่สมัครแอมเวย์ มา สาม ปี แล้ว
>เราเลิกทำไปแล้ว ไม่ได้ไปเฮ้าส์อีก
>พี่ๆอัพไลน์แรกๆโทรมาตามกันทุกวันให้เราไป
>จนเราให้แม่เรารับและบอกเค้าไปว่า
>ตอนนี้เราเป็นโรคเครียดขอร้องอย่ามาตามเราเลย เราขอหยุดพักแล้ว
>
>พวกเค้าถึงจะยอมเลิกราวี แต่ก็ยังส่งแมสเสจมาตลอด
>แนวปลุกระดม เหมือนเดิม
>เราหยุดทำมาเกือบปีแล้ว
>หนี้สินตอนนี้เหลือประมาณ ห้าแสน
>เราได้ยินมาว่าอัพไลน์เรา ออกรถเบนซ์
>เค้านิยมทฤษฏี สร้างภาพ เพราะเรารู้ว่าเค้ากับแฟนเค้า
>หนี้สินรุงรังเลย เพราะเราเคยไปจ่ายเงินที่
>ธนาคารกับแฟนอัพไลน์เรา เราเห็นเค้าจ่ายทีเป็นปึกๆๆ
>ตอนนี้พวกเค้าอาจยังคิดไม่ได้
>
>ขอเตือน อย่าเด็ดขาด
>อย่าเชื่อคนง่าย อย่าคิดว่าจะยืมจมูกคนอื่นหายใจได้
>อนาคต ความสำเร็จทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเรา
>ไม่มีหรอก งานง่ายๆ นั่งสบายๆ ได้เดือนละแสน แค่แนะนำบอกต่อ
>ไม่รู้ว่าจะมีคนเข้ามาอ่านได้มากน้อยแค่ไหนก่อนโดนลบ
>
>แต่นี่คือประสบการณ์จริงที่เราไม่อยากให้ใครต้องเจอเหมือนเรา
>
>แม่เรานั่งรอเราถึง ตีสองตีสามทุกครั้งที่เราไปประชุม
>
>พ่อเราร้องไห้ เพราะได้รู้ว่าเราติดหนี้อยู่ห้าแสน
>ทั้งๆที่อายุแค่ ยี่สิบ น้องเรา อายเพื่อน
>เพราะเวลาเราเจอเพื่อนน้องเราก็จะพูดแต่แอมเวย์
>
>เพื่อนๆต้องเดือดร้อน เพราะเราตื้อตลอดเวลา
>และกลัวว่าเราจะขายของเค้า เวลาที่เสียไป เงินทองเพราะเราแค่
>อยากมีเงินอยากมีงานสบายๆ
>เชื่อคนง่าย โดนครอบงำ
>
>ขอบคุณทุกคนที่อ่านค่ะ
>ขอเสริม Amway มาจาก อเมริกา ซึ่งชอบสร้างภาพที่สุด
>หลอกต่อๆกันไป ของแพงใช่ว่าจะดี ของถูกใช่ว่าจะไม่ดี
>ดอกบัวคู่ก็ถูฟันได้ เป็นคนไทยใช้ของไทยดีที่สุด
>ถ้ามันเป็นธุรกิจที่ทำถึงจุดหนึ่งแล้วหยุดได้จริง
>ทำไมพวกเพชรทั้งหลายยังไม่ยอมหยุด
>จริงแล้วคือความโลบของคนไม่มีที่สิ้นสุด
>โอ๊ะเอง..
>copyมาค่ะ......พิจารณาดูนะค่ะ ขายตรงเป็นงี้เหรอ.....

By : ( IP : ...xxx ) (Read 683 | Answer 3 2008-03-30 13:44:41 )
 

ความคิดเห็นที่1  

ในฐานะที่ศึกษา AMWAY มานานหลายปี เปลี่ยน upline มาแล้ว 3 คน ขอยืนยันว่า AMWAY เป็นไปได้ ของจริง ไม่หลอกลวง ต้องแยกบุคคลที่ไม่ดีออกไป อย่าสรุปว่า ระบบไม่ดี สินค้า AMWAY รับประกันความพอใจ คืนได้ หากทำถูกจรรยาบรรณ สร้างเครือข่ายที่เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ใช่สร้างยอดโดยซื้อตุนเอง สินค้าใช้ดีจึงบอกต่อ ต้องใช้เวลากว่าเครือข่ายจะมั่นคง โดยพฤติกรรมการบริโภคต้องเป็นไปตามธรรมชาติ อย่าสร้างภาพเอง คุณโชคร้ายที่เจอ upline ที่ไม่ดี คนที่สำเร็จอย่างมั่นคงใน AMWAY คือ คนที่เคยหนี AMWAY มาก่อน หรือ เป็นศิษย์เก่า AMWAY สินค้าต้องดีจริง ประโยชน์ ประหยัด ปลอดภัย ประสิทธิภาพและประกันความพอใจ ยินดีแชร์ความคิดที่ถูกต้อง หาก AMWAY ไม่ดีจริง คงไม่อยู่มานานถึง 46 ปี ใน 80 ประเทศและดินแดนทั่วโลก ที่สำคัญคือ ต้องแยกคนที่อยากรวยเร็ว สร้างยอดเองแทนที่จะเป็นการใช้สินค้าตามปกติ ให้ได้ ไม่ควรอยู่ในสายงานนั้น การเรียนควรมาก่อนการทำธุรกิจ คุณต้องโทษตัวเองที่แบ่งเวลาไม่เป็น หากคุณไม่มา CENTER ก็ไม่มีใครบังคับคุณได้ มิใช่หรือ ATTITUDE ที่ถูกต้อง คือสิ่งสำคัญที่สุด ไม่ว่าคุณจะทำอะไร

By : วรากร ตันนิรันดร 01-6474891 ( 2008-03-30 13:44:10 )
 

ความคิดเห็นที่2  

ผมได้อ่านกระทู้ที่เกี่ยวกับ Amway ที่เพื่อนเราชื่อ"ช้าง"เขียนมา ในช่วงแรกผมก็ทำตามที่เขียนไว้ แต่ผมทำไม่ถึงจุดที่จะยืนอยู่ได้ เพราะเรื่องเวลา และขบวนการเรียนรู้ที่ไม่ชัดเจน และในฐานะที่ศึกษา AMWAY มา 2-3 ปี ไม่เคยเปลี่ยน upline ขอยืนยันว่า AMWAY เป็นไปได้ ของจริง ไม่หลอกลวง เหมื่อนที่เพื่อน"วรากร" คุ้น ได้ฝากคำตอบกระทู้ไว้ครับ เราต้องแยกบุคคลที่ไม่ดีออกไป เราอย่าสรุปว่า ระบบไม่ดี สินค้า AMWAY รับประกันความพอใจ คืนได้ หากทำถูกจรรยาบรรณ เราต้องสร้างเครือข่ายที่เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ใช่สร้างยอดโดยซื้อตุนเอง สินค้าใช้ดีจึงบอกต่อ ต้องใช้เวลากว่าเครือข่ายจะมั่นคง โดยพฤติกรรมการบริโภคต้องเป็นไปตามธรรมชาติ "ช้าง" เป็นผู้ที่โชคร้ายที่เจอ upline ที่ไม่ดี คนที่สำเร็จอย่างมั่นคงใน AMWAY คือ คนที่เจอ AMWAY มาครั้งแรก หรือ หลายครั้งก็ตาม แต่เราถือว่า เป็นศิษย์เก่า AMWAY ทั้งนั้น สินค้าของเขาต้องดีจริง ประโยชน์ ประหยัด ปลอดภัย ประสิทธิภาพและประกันความพอใจ หากไม่ดีจริง ป่านนี้ก็คงเจ๊งไปนานแล้ว ระยะเวลา 46 ปี ใน 80 ประเทศและดินแดนทั่วโลก เป็นเครื่องยืนยันว่า สินค้าดี ระบบดี แต่คนไม่สำเร็จเพราะไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับระบบได้ และ ที่สำคัญคือ ต้องแยกคนที่เป็น Up line ที่เขาต้องการแต่ความร่ำรวยเท่านั้น การชวน Down line ให้ซื้อสินค้าเป็นวิธีการที่ผิดอย่างร้าย แรง เราต้องเปลี่ยน Up lihe หรือ ลาออกไปอยู่สายงานอื่น ที่เขามุ่งมั่นทำงานด้วยความซื่อสัตย์ และยึดคุณธรรม

By : สุเทพ นันทไชย ( 2008-03-30 13:44:10 )
 

ความคิดเห็นที่3  

สวัสดี เพื่อนๆ ในความคิดของผม ผมว่าปัจจัยที่ทำให้สินค้ามีอายุยาวกว่า40ปีน่าจะมีปัจจัยอื่นๆประกอบด้วยครับ ไม่น่าจะเพราะสินค้าดีอย่างเดียว อย่าลืมว่านี่เป็นธุรกิจเป็นวัตถุประสงค์หลัก ไม่ใช่อยากให้คนได้ใช้ของดีอย่างเดียว และส่วนตัวผมก็ไม่ได้เห็นความแตกต่างของคุณภาพของสินค้ามากไปกว่าราคาที่แพงกว่าสินค้าประเภทเดียวกันแต่ยี่ห้ออื่น ที่พูดมาเนี่ยะ ไม่มีอะไรมากไปกว่าจะบอกว่าผมก็ใช้แอมเวย์อยู่ใช้มานานและก็ยังใช้อยู่จนถึงทุกวันนี้น่าจะไม่ต่ำหว่า10ปีแล้ว แต่ไม่เคยเข้าไปร่วมกิจกรรมใดๆ เป็นเพียงผู้ใช้ผลิตภัณฑ์เท่านั้น ท่านวรากรอาจจะถามว่า เมื่อมันไม่แตกต่างด้านคุณภาพกับยี่ห้ออื่น แถมยังแพงกว่าด้วยแล้วทำไมผมยังใช้อยู่ ตอบง่ายๆนะครับ มันสะดวกสำหรับผมที่จะสั่งซื้อและไม่เสียเวลามีตัวแทนของแอมเวย์ทุกที่ที่ผมไปทำงาน ถามว่าแล้วยี่ห้ออื่นไม่ใช้หรือ ตอบว่า ใช้ครับสลับกันตามความสะดวก ผมเคยซื้อ น้ำยาสารพัดประโยชน์locมา1กล่องใช้ไม่ทัน มันตกผลึกกลายเป็นยางเหนียวเหมือนสีผึ้งเลยแต่ผมก็เอามาใช้ก็ใช้ได้แต่ไม่สะดวก ผมจะจัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆไว้เป็นประจำ ปัจจุบันผมมีซิลิโคนเกรซ 3-4ขวด แชมพู4ขวด ครีมนวด 2ขวด สบู่บอดีซีรีย์ เหลือขวดสุดท้าย น้ำยาล้างกระจก2ขวด เจลบักทาร์ 1 กระป๋อง อ้อ เอสเอ8 หมดแล้ว อย่างนี้เป็นต้น ผมยังมีความเชื่ออยู่ดีว่ามันเป็นธุรกิจมีกำไรขาดทุนเป็นของธรรมดา แต่การเข้าสู่ธุรกิจนั้น คนที่เข้าจะต้องมีวุฒิภาวะบ้าง ทำอย่างไรดีล่ะ จะบอกว่าใช้เกณฑ์อายุก็ไม่ได้ เพราะไอ้บิลเกต มันก็อายุนิดเดียวตอนรวยไมโครซอฟ ไอ้อะไรก็ไม่รู้เจ้าของบริษัทแมคอินทอช เครื่องหมายแอปเปิ้ลก็สำเร็จร่ำรวยอายุน้อยนิดเดียว แต่พลังความมุ่งมัน ประกอบกับมีดีที่จะโชว์มันก็สำเร็จได้ อายุจึงไม่ใช่เกณฑ์ที่เนี๊ยบที่สุด แล้วจะใช้เกณฑ์อะไรดี แอมเวย์เองควบคุมคนที่อยู่ในLineของตนเองได้หรือไม่ ต้องทำหลายๆทางจึงจะแก้ปัญหาได้ครับ สุดท้ายขอยืนยันว่า แอมเวย์ไม่ใช่สินค้าที่ดีที่สุดในความคิดของผมนะครับ แต่เป็นสินค้าตัวหนึ่งที่ผมเลือกใช้เท่านั้น ผมยังหวังว่าคนไทยจะผลิตภัณฑ์ของตนเองที่ดีหรือ ดีกว่าแอมเวย์ผมคนหนึ่งก็สนับสนุน เห็นมีผลิตภัณฑ์ยี่ห้อลีโอ(ไม่ใช่เบียร์นะครับ)เป็นสบู่ แชมพู เป็นของรุ่นพี่สวนกุหลาบทำมาขาย ผมไปเจอที่งานแสดงสินค้าอิมแพค ก็เลยซื้อมาล๊อตปานกลาง พอใช้ได้ครับแต่ไม่ถึงกับที่โฆษณา ต้องพยายามกันต่อไปครับ

By : พยนต์ ( 2008-03-30 13:44:10 )
 

จำนวนผู้เข้าชมเว็บทั้งหมด 230662 คน

ชมรมศิษย์เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัย รุ่นที่ 96 100/397-398 หมู่บ้านมณียา ถ.รัตนาธิเบศธ์ ซ.ท่าอิฐ ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
ติดต่อท่านประธาน > kematat.p@hotmail.com ติดต่อเว็บมาสเตอร์ >webmaster.osk@gmail.com
Produced By Permpoon C. and Powered by: StartUp Design and Network Co.,Ltd.