คลิกเลือกไปหน้าแรก
ชาวสวน'92เข้าสูระบบ
คลิกดูกำหนดการได้ที่วันที่ในปฏิทิน
ธันวาคม - 2567
พฤ
อา
25
26
27
28
29
30
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
1
2
3
4
5
 

@คณะกรรมการชมรม
@ตัวแทน/ผู้ประสานงาน
@วิสัยทัศน์ ค่านิยม ยุทธศาสตร์
@ระเบียบการบริหารงาน
@ระเบียบว่าด้วยเงิน
@รักรุ่นจริงไม่ทิ้งกัน
@บัญชีสถานะการเงิน
@เพลงสวน

คลิกเพื่อเลือกชมและบันทึกข้อความ
คลิกเพื่อดูหรือ post ข่าว
 คลิกเพื่อดูหรือ post จดหมายเวียน
คลิกเพื่อดูหรือ post กำหนดการทำบุญบริจาคโลหิต
คลิกเพื่อดูหรือ post เข้าบอร์ดเพื่อนช่วยเพื่อน
คลิกเพื่อดูหรือ post รายละเอียดธุรกิจของเพื่อน
คลิกเพื่อดูหรือ post คลิปโดนๆของชาวสวน 96
คลิกเพื่อดูหรือ post ภาพกิจกรรมของชาวสวน 96
คลิกเพื่อฝากข่าวสารถึงท่านประธาน
คลิกเพื่อฝากข่าวสารถึง webmaster
คลิกเพื่อดูหรือ postข่าวสารทางวิชาการจากสวน 96
คลิกเพื่อดูหรือ postคำคม,ปรัชญาชีวิต
คลิกเพื่อดูหรือ postเรื่องซุบซิบนินทา
คลิกเพื่อดูหรือ postเรื่องของครอบครัวสวน  96
คลิกเพื่อดูหรือ postเรื่องสันทนาการ

  คลิกเพื่อลิ้งค์ไปสู่หน้าเวปสวนกุหลาบ
  คลิกเพื่อลิ้งค์ไปสู่หน้าเวป OSKNETWORK


หัวข้อ :เนื้อแท้ปัญหาค่าเงินบาท - 01/03/2007 22:20   [ No. 480 ]  
รายละเอียด :
เนื้อแท้ปัญหาค่าเงินบาท - 01/03/2007 22:20
ทุกทีวิเคราะห์แต่ราคาทองคำแต่กระทู้นี้ขอว่าด้วยค่าเงินบาทและปัญหาที่เป็นตัวการทำให้แข็งค่าโดยแท้จริง โดยใช้หลักทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ล้วนๆ(ผิดพลาดประการใดก็ขอโทษไว้นะที่นี้แต่คิดว่าไม่น่าผิดนะครับ)

ความรู้พื้นฐานก่อนวิเคราะห์เหตุการณ์ปัจจุบัน(เผื่อท่านที่ยังไม่ทราบ)
1.ส่งออกมากทำให้ค่าเงินแข็งเพราะทำให้ความต้องการเงินบาทมากขึ้น
2.นำเข้ามากทำให้ค่าเงินอ่อนเพราะทำให้ความต้องการเงินต่างประเทศมาก
3.ค่าเงินแข็งส่งออกไม่ดี นำเข้าดี ค่าเงินอ่อนส่งออกดี นำเข้าไม่ดี
4.อัตราดอกเบี้ยในประเทศยิ่งสูงเงินทุนเคลื่อนย้ายเข้ายิ่งมาก อัตราดอกเบี้ยต่ำเงินทุนย้ายออกมาก
5.เงินทุนเคลื่อนย้ายเข้ามากทำให้เงินบาทแข็ง เงินทุนเคลื่อนย้ายออกมากทำให้ค่าเงินอ่อน
6.อัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวแบบจัดการหรือลอยตัวแบบไม่สมบูรณ์หมายถึงการที่ปล่อยให้ค่าเงินเป็นไปตามดีมานซัพ พลายแต่รัฐคอยควบคุมไว้ด้วยเพื่อให้เกิดเสถียรภาพและไม่กระเทือนระบบเศรษฐกิจกระทันหัน
7.การโจมตีค่าเงินบาทโดยส่วนใหญ่จะเกิดกับประเทศที่ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดติดต่อกันมาหลายปี แล้วยังพยายามคงอัตราแลกเปลี่ยนเดิม

หัวข้อที่1 ความเหมือนความแตกต่าง ปี40 และ ปี50

1.ในปี40เราใช้นโยบายอัตราแลกเปลี่ยนอย่างคงที่เพราะข้อกำหนดของ IMF แต่เพื่อปิดบังความเน่าเฟะทางเศรษฐกิจ หลังปี40เราใช้อัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวแบบจัดการเรื่อยมา
2.ตั้งแต่ก่อนปี40 เราขาดดุลบัญชีเดินสะพัดมากมายติดต่อกันหลายปี ทุนสำรองระหว่างประเทศก็ร่อยหรอ แต่เนื่องจากต้องใช้อัตราแลกเปลี่ยนคงที่ทำให้ต้องนำเงินทุนสำรองที่มีอยู่น้อยนิดมาคอยปกป้องไว้ทำให้เฮด ฟันเล็งเห็นความเน่าที่ปกปิดไว้ทำให้โดนโจมตีค่าเงินจนได้ แต่ในคราวนี้ไม่เหมือนกันเราส่งออกดีมากครับแม้อาจจะโดนผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งไปบ้างแต่ก็ยังอยู่ในเกณ ฑ์ดีเป็นเหตุปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ค่าเงินแข็ง
3.ในช่วงก่อนปี40อัตราดอกเบี้ยของเราสูงมากๆจนคนไม่ต้องทำมาหากินฝากแบงค์ก็กินไม่หมด ฝากได้ปีละ10-11% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงมากทำให้ค่าเงินควรจะแข็งแต่ก็ดอกสูงก็ยังสู้ภาวะขาดดุลไม่ได้ค่าเงินที่แท้ จริงถ้าไม่ปกป้องจึงควรจะอ่อนมากๆ ในปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยของเราตอนนี้ไม่นับไม่สูงน่าเกลียดเหมือนคราวก่อนแต่ก็ถือว่าสูงทีเดียวน่าลงทุนท ำให้มีทุนเคลื่อนย้ายเข้ามามากพอควรและนี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ค่าเงินแข็ง

พิมพ์มาซะยืดยาวลืมไปว่านี่เว็ปไซต์ทองคำไม่ใช่เวปวิเคราะห์เศรษฐกิจมันเกี่ยวข้องก็จริงแต่ผมเป็นคนชอบร่ ายยาวจริงๆผมยังคิดได้อีก 2- 3หัวข้ออ่ะครับแต่เห็นมันยาวแล้วกลัวเพื่อนๆจะเบื่อซะก่อนเลยลองพิมพ์ให้อ่านแค่นี้ก่อนลองสำรวจความพอใจก ่อนถ้าเพื่อนๆยังอยากอ่านต่อก็บอกนะครับผมจะมาพิมพ์ให้ต่อ(กลัวเพื่อนๆจะเบื่อซะก่อน)

มีอย่างแน่อนอนครับแต่จะเมื่อไรของปีอันนี้ผมไม่ทราบเพราะสถานการณ์ทางการเมืองเละเทะเหลือเกินครับไปคนเก ่งก็ไม่ได้ทำคนทำก็ไม่ได้เก่ง ส่วนสาเหตุที่คาดว่าจะทำให้ไหลออกนั้นเนื่องจาก
1.นักเศรษฐศาสตร์หลายๆท่าน(รวมทั้งตัวผมด้วย) มองว่าอัตราดอกเบี้ยในประเทศสูงเกินไปทำให้ภาวะการลงทุนในประเทศไม่ต่ำสมควรแก่การหาจังหวะปรับลดลงมาเรื่ อยๆแต่เห็นว่ารอบแรกจะปรับนิดเดียวแค่0.25 น้อยอย่างกะขี้มดตะนอย ตรงนี้ส่งผลนิดเดียวแต่ถ้าเมื่อไรลงซัก2-3%ล่ะก็แน่นอนครับไหลเป็นน้ำเลย
2.ความไม่มั่นคงทางการเมืองครับถ้าการเมืองไม่มั่นคง นักลงทุนต่างชาติจะมองว่าประเทศไม่สงบภาวะเศรษฐกิจการเมืองไม่แน่นอนหนีไปลงทุนที่อื้นดีกว่ามาเสี่ยงที่น ี่
3.รัฐใช้นโยบายบ้าๆบอๆเหมือนที่ผ่านมาเช่นกันทุน30% เพราะของแบบนี้ต้องค่อยเป็นค่อยไปครับ

By : chang   ( IP : 58.8.116.xxx ) (Read 642 | Answer 1 2007-03-02 15:11:49 )
 

ความคิดเห็นที่1  

บังเอิญมีคนคล้ายคุณ การพูดก็คล้ายกันก็เลยไขว้เขวครับ แต่ผมชอบสไตล์ รอมชอมครับ วันนี้ก็อย่างที่ผมคาดเดาไว้ว่า 640 ดอลล่า ซึ่งเป็นโอกาสอันดีในการพิจารณาซื้อเพราะ เงินบาทก็ยังแข็งอยู่ แต่อย่าใจเร็วกันเกินไป แม้ราคาทองคำจะไปคนละทิศคนละทางกับ น้ำมัน แต่จากประสพการณ์ท้ายสุดก็เป็นไปในทางทิศเดียวกัน ผมก็ยังเน้นเรื่องอัตราแลก เปลี่ยนมาโดยตลอดในหลาย ๆ เว็บ ยิ่งผู้ส่งออก ตกใจรีบขายทิ้งดอลล่าโดยไม่ถือครองเรื่อง นี้ก็จะทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นอีก ที่วันนี้เงินบาทอ่อนลง 4 สตางค์เนื่องจากตลาดปิด แต่ถ้า เป็นวันจันทร์ และ ต่อ ๆ ไป ผมก็ยังคิดว่าน่าจะไปอยู่ที่ 35.30 หรือ 35.20 เวลานี้ทฤษฎีไหน ก็ไม่เท่าความเป็นจริงที่ว่าใครโจมตีเงินบาทเราหรือไม่ เศรษฐกิจเราแข็งแกร่งจริงหรือไม่ การ ส่งออกของเราตัวเลขเพิ่ม จริงหรือไม่ บริษัทต่างชาติที่มาลงทุนในไทย ยังไม่มีการโอนกำไร ออกนอกประเทศใช่ไหม จึงยังไม่มีเงินไหลออก และมาตรการ 30 เปอร์เซนต์ ทำให้ต่างชาติ ยังไม่สามารถโอนเงินออก เพราะกังวลว่าออกไปแล้ว จะนำกลับเข้ามาลำบากหรือไม่ เมื่อมีมาตรการผ่อนผัน หรือ มีรัฐมนตรีใหม่ ใครจะทราบว่าเงินจะไหลออกหรือไม่ ตอนนี้ต้อง หวังพึ่งนักการเงินการธนาคารออกมา ช่วยกันวิเคราะห์เสียแล้วครับ เพราะเงินไหลออกครั้งนี้น่า กลัวครับ โดยเฉพาะผู้นำเข้า ที่ยังเริงร่า และ ผู้ส่งออกที่ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ คุณได้กำไรไปเท่าไร คุณจะเสียคืนอีกหลายเท่าครับ ถ้าเกิดเหตุการณ์เงินไหลออก และบาท อ่อนค่าในที่สุด การนำเข้าที่ได้เครดิต ก็จะต้องชำระเงินที่เป็นหนี้อยู่มากขึ้น ที่กำไรมาก่อนหน้า อาจย่อยยับอีกครั้งหนึ่งครับท่าน ทุกรอบ 10 ปี ของเมืองไทย ก็เป็นเรื่องบังเอิญอีกเช่นกัน ปี 20 ปี 30 ปี 40 ปี 50 มันประจวบเหมาะกันเสียเหลือเกิน ไม่วิจารณ์มากแต่ให้ข้อคิดครับ ของแบบนี้ต้องดูที่ตัวเลยดีกว่าฟังคนอื่นพูดไม่เท่าดูเองครับ(รวมทั้งที่ผมพูดด้วย) ดูได้ที่เวป www.bot.or.th ดูที่ข้อมูลดุลการชำระเงินนะครับ ค่าเงินบาท กับดอลล่า กับ ยูโร มันเกี่ยวพันกันไงครับ แล้ว เงินบาท เกี่ยวพันกับเงินสกุลไหนมากที่สุดครับ ถ้าต้องการคุยเป็นการส่วนตัวขอเป็นทาง เอ็มละกันนะครับ smith_sompradit@hotmail.com แต่บอกก่อนนะครับผมแม่นแต่เด้านศรษฐศาสตร์ ถ้าให้เดาราคาทองล่ะก็คงยากอยู่เพราะผมก็พึ่งมาเริ่มศึกษาไม่นานและยังไม่ได้ศึกษาอย่างจริงจังด้วยครับแต ่ถ้าเป็นด้านเศรษฐกิจ ค่าเงิน ผู้หญิง(อันนี้ล้อเล่นนะครับ) ก็เต็มใจแลกเปลี่ยนความคิดเห็นครับ จะออนกี่โมงก็บอกละกันนะครับ ค่าเงินบาทเกี่ยวพันกับค่าเงินดอลล่ามากที่สุดเพราะค่าเงินบาทของเราอิงค่าเงินดอลล่าเป็นหลักครับ แต่ถึงแม้ผลกระทบจากตรงนี้จะมีผลต่อค่าเงินบาทก็จริงคือถ้าดอลแข็งบาทอ่อน ดอลอ่อนบาทแข็ง แต่มันไม่ได้ส่งผลต่อค่าเงินบาทมากเท่ากับการไหลเข้าไหลออกของเงิน ความต้องการของเงินบาท(ประกอบด้วยมูลค่าการส่งออกเป็นหลัก) ความต้องการขายของเงินบาท(ประกอบด้วยมูลค่าการนำเข้าและเงินทุนเคลื่อนย้ายออกเป็นหลัก) ส่วนข้อมูลพวกนี้ถ้าใครขยันก็เข้าไปดูข้อมูลตัวเลขจริงๆได้ที่ www.bot.or.th ที่ดุลการชำระเงินครับ ส่วนเกี่ยวพันกับเงินสกุลใดมากน้อยขึ้นอยู่กับว่าเรามีการติดทำธุรกรรมกับประเทศนั้นมากหรือน้อยครับ เช่น นำเข้า ส่งออก กู้เงิน ฯลฯ ที่หลักๆมีความสัมพันธ์มากๆเท่าที่รู้ก็ ดอลล่า ยูโร เยน หยวน คงมีอีกแต่ผมทราบเท่านี้ครับ 1.8 แสนล้านที่หายไป มันช่างเหมือนเมื่อปี 40 ไม่มีผิด ผิดกันตรงสมัยนั้นเงินบาทอ่อน แต่ขณะนี้ เงินบาทแข็ง บริษัทใหญ่ ๆ เท่านั้นที่ทำ FORWARD RATE ส่วนบริษัทกลางและเล็กคงยาก หรือ อาจเป็นเพราะค่าธรรมเนียมธนาคารด้วย พรรคหลังนี้ธนาคารมักมีกำไรจากการทำธุรกรรมอื่น ๆ ที่ไม่ ใช่การกู้ยืมเงินเป็นหลัก คุณแมมซ่า ก็คงเข้าใจเรื่องงบการเงินดี สมัยนี้ถ้าดูหมายเหตุไม่เป็น ก็เป็นอัน ม้วย เหมือนสมัยผมเล่นหุ้น ก็เลยต้องไป ศึกษาบัญชีใหม่ ระยะ 3 เดือน เพื่อดูหมายเหตุ ให้เป็น ในชีวิต ที่ทำงานมาจนไม่มีงานทำต้องออกมาเปิดบริษัทเอง พบว่า ตัวเลขทางภาครัฐ ไม่เคย ตรงกันสักที ไม่ ต้องมาก ผมอยู่ในวงการนำเข้าและส่งออกมา 28 ปี กรมศุลกากร ซึ่งสัมผัสตัวเลข สถิติการนำเข้ามาก กว่าใครแต่พอต้องการข้อมูล มีสักกี่ข้อมูลที่ใช้ได้ ตัวอย่างนะครับ มีผู้นำเข้าราย หนึ่งต้องการทราบว่ามีผู้นำเข้าCOLD ROLL SHEET PILING & HOT ROLL SHEEP PILING เป็นจำนวนกี่ตัน ต่อปี ปรากฎว่า ทั้งกรมศุลกากร สำนักงานมาตรฐานอุตสากรรม ตอบไปกันคนละทิศ ละทาง การจัดเก็บ ตัวเลขของทางภาครัฐ ฯ เก็บมากจริงครับ แต่ใช้ประโยชน์ได้น้อยมาก หลายบริษัท ไม่มี R& D เวลาต้องการเก็บตัวเลขเพื่อการประเมิน ตัวเลขที่ได้ก็ไม่ใช่สถิติที่แท้จริง การถามตอบก็ ไปกันคนละทิศ ลูกน้องตอบอย่างหัวหน้าตอบอย่าง ทำจดหมายถามก็ไม่ค่อยยอมตอบ ยิ่งถ้าเป็นการ ถามปากเปล่าด้วย ละก็ แย่มาก ๆ ในอดึตสมัยผมทำงานใหม่ ๆ ตัวเลขการนำเข้าเงิน และส่งออกเงิน ถูกควบคุมโดย EXCHANGE CONTROL หรือ ลป ต่าง ๆ เช่น ลป 21 ลป 22 ลป 61 ลป 31 จะเป็นแบบฟอร์มในการซื้อขายเงินในธุรกรรมต่าง ๆ ตัวเลขที่ได้จากธนาคารชาติก็ค่อนข้างแน่นอน คนในวัย 50 จะทราบดี ธนาคารชาติมีสิทธิ์เรียก บริษัทเอกชนไปชี้แจง หากข้อมูลไม่ตรงหรือผิดพลาด แต่ต่อมามีการเปลี่ยนเป็น ธต และในที่สุด ก็มีแต่การเปิด L/C ที่ยังพอเก็บตัวเลขได้ รายละเอียดอื่น ๆ ผมคงไม่อธิบายมากเนื่องจากอาจารย์ที่สอนในมหาลัยไทยเวลานี้ หาตัวยากที่จะพบที่สามารถสอนใน เชิง มหภาคได้ ส่วนใหญ่จะเป็นจุลภาค ส่วนใหญ่แล้วที่ประสพความสำเร็จกันมาก็คือ LEARNING FROM DOING และประสพการณ์ที่สั่งสมมา ความรู้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ฉนั้นไม่ มีผู้รู้คนใดที่ไม่ต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทุกวันนี้ผมยังรู้สึกว่าตัวเองยังโง่อยู่มาก ๆ ก็พยายาม ถามไถ่ผู้รู้ ส่วนทองคำ ราคาขึ้นลงท้ายสุด ก็อยู่ที่กองทุนครับ ใครมีเพื่อนอยู่ที่ธนาคารทหารไทย ก็ลองถามเขาดูบ้างว่าเขาบริหารกองทุนทองคำเช่นไร สมัยก่อนคนไทยหลายคนไปศีกษาวิชาการ ดูกราฟ ถึงเมกา แต่ท้ายสุดขาดทุนหุ้นหมด หลายคนมี INSIDE ก็ยังขาดทุน ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก นี้ล้วนเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ยกตัวอย่างนะครับ ในตลาดหลักทรัพย์มีนักวิจารณ์หุ้นอยู่มากมาย ทำไม เขาไม่เล่นหุ้นซะเองเล่า ทำไมทนรับเงินเดือน ๆ ละ แสนกว่าบาท ถ้าวิเคราะห์เก่งเล่นหุ้นเองกำไร กว่าเยอะมาทนทำงานรับเงินเดือนทำไม ผมยกตัวอย่างอีกตัวอย่างนะครับ มีบริษัทค้าพืชผลแห่งหนึ่ง เมื่อประมาณ 20 กว่าปีมาแล้ว เวลามีการปฐมนิเทศพนักงานใหม่ ท่านประธานมักกล่าวว่า ไม่ว่าคุณ จะจบมาจากมหาวิทยาลัยไหน เมื่อมาอยู่ที่บริษัทนี้ ก็ขอให้คิดว่าบริษัทนี้คือมหาลัยที่แท้จริงไม่มีการ แบ่งว่าจบมาจากมหาวิทยาไหน ต้องมาพิสูจน์ฝีมือกันอีกทีหนึ่ง หรือมีอยู่ตอนหนึ่งท่านเกิดเบรคแตก ขึ้นมาในงาน ๆ หนึ่ง ว่าผมไม่ได้จบด็อกเตอร์ แต่ทุกวันนี้ผมมีด็อกเตอร์ เป็นลูกน้อง หลายครั้งที่ท่าน มาออกทีวี โชว์วิสัยทัศน์ ก็มีด็อกเตอร์ร่างบทมาให้ทั้งนั้นครับ ที่ยกตัวอย่างมาเล่าสู่กันฟังก็เพื่อให้ ท่านทั้งหลายใช้วิจารณญาณ เป็นเครืองมือในการตัดสินใจ ครั้งหนึ่งผมได้ชมภาพยนต์ยุทธภุมิกางเขน เหล็ก ผู้กล้าหาญนอนอยู่ในหลุมศพ แต่ผู้ได้รับเหรียญกล้าหาญตัวจริง ............ ให้ไว้เป็นข้อคิดเท่านั้นไม่จำเป็นต้องเชื่อผมทั้งหมด ไม่มีเจตนาใด ๆ แองแฝง ให้อ่าน ด้วยใจ จากใจถึงใจครับ บทความของนักวิเคราะห์ใน THE BULLION DESK หรือ KITCO ก็ไปกันคนละทิศละทาง ถ้าท่านทั้งหลายสนใจจริง ๆ ช่อง 44 ยูบีซี วิเคราะห์ได้ดีพอสมควรรวมทั้ง ข้อมูลสถิติต่าง ๆ และยังมีอีกหลายเว็บ แค่นี้นะครับ เหนื่อยครับ

By : chang ( 2008-03-30 13:44:10 )
 

จำนวนผู้เข้าชมเว็บทั้งหมด 230587 คน

ชมรมศิษย์เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัย รุ่นที่ 96 100/397-398 หมู่บ้านมณียา ถ.รัตนาธิเบศธ์ ซ.ท่าอิฐ ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
ติดต่อท่านประธาน > kematat.p@hotmail.com ติดต่อเว็บมาสเตอร์ >webmaster.osk@gmail.com
Produced By Permpoon C. and Powered by: StartUp Design and Network Co.,Ltd.