ความคิดเห็นที่1 |
|
บังเอิญมีคนคล้ายคุณ การพูดก็คล้ายกันก็เลยไขว้เขวครับ แต่ผมชอบสไตล์ รอมชอมครับ
วันนี้ก็อย่างที่ผมคาดเดาไว้ว่า 640 ดอลล่า ซึ่งเป็นโอกาสอันดีในการพิจารณาซื้อเพราะ
เงินบาทก็ยังแข็งอยู่ แต่อย่าใจเร็วกันเกินไป แม้ราคาทองคำจะไปคนละทิศคนละทางกับ
น้ำมัน แต่จากประสพการณ์ท้ายสุดก็เป็นไปในทางทิศเดียวกัน ผมก็ยังเน้นเรื่องอัตราแลก
เปลี่ยนมาโดยตลอดในหลาย ๆ เว็บ ยิ่งผู้ส่งออก ตกใจรีบขายทิ้งดอลล่าโดยไม่ถือครองเรื่อง
นี้ก็จะทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นอีก ที่วันนี้เงินบาทอ่อนลง 4 สตางค์เนื่องจากตลาดปิด แต่ถ้า
เป็นวันจันทร์ และ ต่อ ๆ ไป ผมก็ยังคิดว่าน่าจะไปอยู่ที่ 35.30 หรือ 35.20 เวลานี้ทฤษฎีไหน
ก็ไม่เท่าความเป็นจริงที่ว่าใครโจมตีเงินบาทเราหรือไม่ เศรษฐกิจเราแข็งแกร่งจริงหรือไม่ การ
ส่งออกของเราตัวเลขเพิ่ม จริงหรือไม่ บริษัทต่างชาติที่มาลงทุนในไทย ยังไม่มีการโอนกำไร
ออกนอกประเทศใช่ไหม จึงยังไม่มีเงินไหลออก และมาตรการ 30 เปอร์เซนต์ ทำให้ต่างชาติ
ยังไม่สามารถโอนเงินออก เพราะกังวลว่าออกไปแล้ว จะนำกลับเข้ามาลำบากหรือไม่
เมื่อมีมาตรการผ่อนผัน หรือ มีรัฐมนตรีใหม่ ใครจะทราบว่าเงินจะไหลออกหรือไม่ ตอนนี้ต้อง
หวังพึ่งนักการเงินการธนาคารออกมา ช่วยกันวิเคราะห์เสียแล้วครับ เพราะเงินไหลออกครั้งนี้น่า
กลัวครับ โดยเฉพาะผู้นำเข้า ที่ยังเริงร่า และ ผู้ส่งออกที่ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศ
คุณได้กำไรไปเท่าไร คุณจะเสียคืนอีกหลายเท่าครับ ถ้าเกิดเหตุการณ์เงินไหลออก และบาท
อ่อนค่าในที่สุด การนำเข้าที่ได้เครดิต ก็จะต้องชำระเงินที่เป็นหนี้อยู่มากขึ้น ที่กำไรมาก่อนหน้า
อาจย่อยยับอีกครั้งหนึ่งครับท่าน ทุกรอบ 10 ปี ของเมืองไทย ก็เป็นเรื่องบังเอิญอีกเช่นกัน
ปี 20 ปี 30 ปี 40 ปี 50 มันประจวบเหมาะกันเสียเหลือเกิน ไม่วิจารณ์มากแต่ให้ข้อคิดครับ
ของแบบนี้ต้องดูที่ตัวเลยดีกว่าฟังคนอื่นพูดไม่เท่าดูเองครับ(รวมทั้งที่ผมพูดด้วย) ดูได้ที่เวป www.bot.or.th ดูที่ข้อมูลดุลการชำระเงินนะครับ
ค่าเงินบาท กับดอลล่า กับ ยูโร มันเกี่ยวพันกันไงครับ แล้ว เงินบาท เกี่ยวพันกับเงินสกุลไหนมากที่สุดครับ
ถ้าต้องการคุยเป็นการส่วนตัวขอเป็นทาง เอ็มละกันนะครับ smith_sompradit@hotmail.com แต่บอกก่อนนะครับผมแม่นแต่เด้านศรษฐศาสตร์ ถ้าให้เดาราคาทองล่ะก็คงยากอยู่เพราะผมก็พึ่งมาเริ่มศึกษาไม่นานและยังไม่ได้ศึกษาอย่างจริงจังด้วยครับแต ่ถ้าเป็นด้านเศรษฐกิจ ค่าเงิน ผู้หญิง(อันนี้ล้อเล่นนะครับ) ก็เต็มใจแลกเปลี่ยนความคิดเห็นครับ จะออนกี่โมงก็บอกละกันนะครับ
ค่าเงินบาทเกี่ยวพันกับค่าเงินดอลล่ามากที่สุดเพราะค่าเงินบาทของเราอิงค่าเงินดอลล่าเป็นหลักครับ แต่ถึงแม้ผลกระทบจากตรงนี้จะมีผลต่อค่าเงินบาทก็จริงคือถ้าดอลแข็งบาทอ่อน ดอลอ่อนบาทแข็ง แต่มันไม่ได้ส่งผลต่อค่าเงินบาทมากเท่ากับการไหลเข้าไหลออกของเงิน ความต้องการของเงินบาท(ประกอบด้วยมูลค่าการส่งออกเป็นหลัก) ความต้องการขายของเงินบาท(ประกอบด้วยมูลค่าการนำเข้าและเงินทุนเคลื่อนย้ายออกเป็นหลัก) ส่วนข้อมูลพวกนี้ถ้าใครขยันก็เข้าไปดูข้อมูลตัวเลขจริงๆได้ที่ www.bot.or.th ที่ดุลการชำระเงินครับ ส่วนเกี่ยวพันกับเงินสกุลใดมากน้อยขึ้นอยู่กับว่าเรามีการติดทำธุรกรรมกับประเทศนั้นมากหรือน้อยครับ เช่น นำเข้า ส่งออก กู้เงิน ฯลฯ ที่หลักๆมีความสัมพันธ์มากๆเท่าที่รู้ก็ ดอลล่า ยูโร เยน หยวน คงมีอีกแต่ผมทราบเท่านี้ครับ
1.8 แสนล้านที่หายไป มันช่างเหมือนเมื่อปี 40 ไม่มีผิด ผิดกันตรงสมัยนั้นเงินบาทอ่อน แต่ขณะนี้
เงินบาทแข็ง บริษัทใหญ่ ๆ เท่านั้นที่ทำ FORWARD RATE ส่วนบริษัทกลางและเล็กคงยาก หรือ
อาจเป็นเพราะค่าธรรมเนียมธนาคารด้วย พรรคหลังนี้ธนาคารมักมีกำไรจากการทำธุรกรรมอื่น ๆ
ที่ไม่ ใช่การกู้ยืมเงินเป็นหลัก คุณแมมซ่า ก็คงเข้าใจเรื่องงบการเงินดี สมัยนี้ถ้าดูหมายเหตุไม่เป็น
ก็เป็นอัน ม้วย เหมือนสมัยผมเล่นหุ้น ก็เลยต้องไป ศึกษาบัญชีใหม่ ระยะ 3 เดือน เพื่อดูหมายเหตุ
ให้เป็น ในชีวิต ที่ทำงานมาจนไม่มีงานทำต้องออกมาเปิดบริษัทเอง พบว่า ตัวเลขทางภาครัฐ ไม่เคย
ตรงกันสักที ไม่ ต้องมาก ผมอยู่ในวงการนำเข้าและส่งออกมา 28 ปี กรมศุลกากร ซึ่งสัมผัสตัวเลข
สถิติการนำเข้ามาก กว่าใครแต่พอต้องการข้อมูล มีสักกี่ข้อมูลที่ใช้ได้ ตัวอย่างนะครับ มีผู้นำเข้าราย
หนึ่งต้องการทราบว่ามีผู้นำเข้าCOLD ROLL SHEET PILING & HOT ROLL SHEEP PILING
เป็นจำนวนกี่ตัน ต่อปี ปรากฎว่า ทั้งกรมศุลกากร สำนักงานมาตรฐานอุตสากรรม ตอบไปกันคนละทิศ
ละทาง การจัดเก็บ ตัวเลขของทางภาครัฐ ฯ เก็บมากจริงครับ แต่ใช้ประโยชน์ได้น้อยมาก หลายบริษัท
ไม่มี R& D เวลาต้องการเก็บตัวเลขเพื่อการประเมิน ตัวเลขที่ได้ก็ไม่ใช่สถิติที่แท้จริง การถามตอบก็
ไปกันคนละทิศ ลูกน้องตอบอย่างหัวหน้าตอบอย่าง ทำจดหมายถามก็ไม่ค่อยยอมตอบ ยิ่งถ้าเป็นการ
ถามปากเปล่าด้วย ละก็ แย่มาก ๆ ในอดึตสมัยผมทำงานใหม่ ๆ ตัวเลขการนำเข้าเงิน และส่งออกเงิน
ถูกควบคุมโดย EXCHANGE CONTROL หรือ ลป ต่าง ๆ เช่น ลป 21 ลป 22 ลป 61 ลป 31
จะเป็นแบบฟอร์มในการซื้อขายเงินในธุรกรรมต่าง ๆ ตัวเลขที่ได้จากธนาคารชาติก็ค่อนข้างแน่นอน
คนในวัย 50 จะทราบดี ธนาคารชาติมีสิทธิ์เรียก บริษัทเอกชนไปชี้แจง หากข้อมูลไม่ตรงหรือผิดพลาด
แต่ต่อมามีการเปลี่ยนเป็น ธต และในที่สุด ก็มีแต่การเปิด L/C ที่ยังพอเก็บตัวเลขได้ รายละเอียดอื่น ๆ
ผมคงไม่อธิบายมากเนื่องจากอาจารย์ที่สอนในมหาลัยไทยเวลานี้ หาตัวยากที่จะพบที่สามารถสอนใน
เชิง มหภาคได้ ส่วนใหญ่จะเป็นจุลภาค ส่วนใหญ่แล้วที่ประสพความสำเร็จกันมาก็คือ LEARNING
FROM DOING และประสพการณ์ที่สั่งสมมา ความรู้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ฉนั้นไม่
มีผู้รู้คนใดที่ไม่ต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทุกวันนี้ผมยังรู้สึกว่าตัวเองยังโง่อยู่มาก ๆ ก็พยายาม
ถามไถ่ผู้รู้ ส่วนทองคำ ราคาขึ้นลงท้ายสุด ก็อยู่ที่กองทุนครับ ใครมีเพื่อนอยู่ที่ธนาคารทหารไทย
ก็ลองถามเขาดูบ้างว่าเขาบริหารกองทุนทองคำเช่นไร สมัยก่อนคนไทยหลายคนไปศีกษาวิชาการ
ดูกราฟ ถึงเมกา แต่ท้ายสุดขาดทุนหุ้นหมด หลายคนมี INSIDE ก็ยังขาดทุน ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก
นี้ล้วนเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ยกตัวอย่างนะครับ ในตลาดหลักทรัพย์มีนักวิจารณ์หุ้นอยู่มากมาย ทำไม
เขาไม่เล่นหุ้นซะเองเล่า ทำไมทนรับเงินเดือน ๆ ละ แสนกว่าบาท ถ้าวิเคราะห์เก่งเล่นหุ้นเองกำไร
กว่าเยอะมาทนทำงานรับเงินเดือนทำไม ผมยกตัวอย่างอีกตัวอย่างนะครับ มีบริษัทค้าพืชผลแห่งหนึ่ง
เมื่อประมาณ 20 กว่าปีมาแล้ว เวลามีการปฐมนิเทศพนักงานใหม่ ท่านประธานมักกล่าวว่า ไม่ว่าคุณ
จะจบมาจากมหาวิทยาลัยไหน เมื่อมาอยู่ที่บริษัทนี้ ก็ขอให้คิดว่าบริษัทนี้คือมหาลัยที่แท้จริงไม่มีการ
แบ่งว่าจบมาจากมหาวิทยาไหน ต้องมาพิสูจน์ฝีมือกันอีกทีหนึ่ง หรือมีอยู่ตอนหนึ่งท่านเกิดเบรคแตก
ขึ้นมาในงาน ๆ หนึ่ง ว่าผมไม่ได้จบด็อกเตอร์ แต่ทุกวันนี้ผมมีด็อกเตอร์ เป็นลูกน้อง หลายครั้งที่ท่าน
มาออกทีวี โชว์วิสัยทัศน์ ก็มีด็อกเตอร์ร่างบทมาให้ทั้งนั้นครับ ที่ยกตัวอย่างมาเล่าสู่กันฟังก็เพื่อให้
ท่านทั้งหลายใช้วิจารณญาณ เป็นเครืองมือในการตัดสินใจ ครั้งหนึ่งผมได้ชมภาพยนต์ยุทธภุมิกางเขน
เหล็ก ผู้กล้าหาญนอนอยู่ในหลุมศพ แต่ผู้ได้รับเหรียญกล้าหาญตัวจริง ............
ให้ไว้เป็นข้อคิดเท่านั้นไม่จำเป็นต้องเชื่อผมทั้งหมด ไม่มีเจตนาใด ๆ แองแฝง ให้อ่าน
ด้วยใจ จากใจถึงใจครับ บทความของนักวิเคราะห์ใน THE BULLION DESK หรือ KITCO
ก็ไปกันคนละทิศละทาง ถ้าท่านทั้งหลายสนใจจริง ๆ ช่อง 44 ยูบีซี วิเคราะห์ได้ดีพอสมควรรวมทั้ง
ข้อมูลสถิติต่าง ๆ และยังมีอีกหลายเว็บ แค่นี้นะครับ เหนื่อยครับ
By : chang
( 2008-03-30 13:44:10 )
|
|
|
|
|