|
|
|
หัวข้อ :ล้วงลึก...สาวรัสเซีย [ No. 485 ] |
|
รายละเอียด :
ล้วงลึก...สาวรัสเซีย [27 ก.พ. 50 - 16:38]
นิติภูมิเคยเขียน ?ผู้หญิงรัสเซีย? ในเปิดฟ้าส่องโลกของ นสพ.ไทยรัฐ เมื่อ 10 เมษายน พ.ศ. 2540 คือเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ผมเขียนถึงผู้หญิงรัสเซียว่า
?ผู้หญิงสลาฟ เรือนร่างสูงใหญ่ไม่เก้งก้างเหมือนสาวฝรั่งคอเคซัสเผ่าอื่น จากศีรษะจดเท้า หุ่นสูงกว่าสตรีไทยนิดหน่อย ถ้าเป็นสาว สลาฟของแท้ เธอจะมีผมสีบลอนด์ เส้นผมบนศีรษะจะนุ่มสลวยเหมือนปุยไหม นัยน์ตาโดยมากจะเป็นสีฟ้าอ่อนหวาน ถ้าพื้นเพเดิมอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ตาของเธอจะออกเป็นสีน้ำเงินเข้ม ยามชายตามองแต่ละครั้ง คุณผู้ชายจะต้องหนาววูบวาบไปทั้งร่าง เลือดในกายจะสูบฉีดพลุ่งพล่าน จิตใจฟุ้งซ่าน พูดไม่ออกเหมือนลืมทุกอย่างในโลกนี้?
ก่อนโน้น สลาฟสาวเป็นเผ่าพันธุ์หยิ่งผยอง ถือเนื้อถือตัว คนผมดำผิวเหลืองอย่างพวกเราเข้าไปตีสนิท ด้วยคิดว่าถ้าเป็นไปได้ ในอนาคตอยากจะมีเธอไว้แนบชิดติดกาย เพื่อเป็นหวานใจแห่งชีวิต ผู้ชายไทยจำนวนไม่น้อยต้องผิดหวัง เพราะพวกเธอในสมัยที่ยังเป็นกบอยู่ในกะลา คิดว่าสหภาพโซเวียตอันกว้างใหญ่ไพศาลนั้นคือโลกทั้งใบ เราคือมหาอำนาจ ผู้คนจากชาติบ้านเมืองอื่น ล้วนเป็นพวกกระจอกงอกง่อยทั้งสิ้น
ผู้หญิงรัสเซียเริ่มเห็นชาย ต่างชาติมีเสน่ห์เมื่อชาติบ้านเมืองของตนแตกสลายกลายเป็น 15 ประเทศ บั้นปลายท้าย พ.ศ.2534 บรรดาผู้คนชนชาติรัสเซียเริ่มรู้รสของความอดอยากปากแห้ง ชายต่างชาติที่ไปอยู่รัสเซียในห้วงช่วงปีแห่งความอดอยากนั้น ประดุจกำเนิดเกิดเป็นเทวดาในบรรณพิภพ ตั้งแต่เช้าจดเย็น กระทั่งถึงเวลานาทีที่ผู้คนควรจะเข้านอนแล้ว บรรดานางฟ้าจะสอดส่ายสายตาหาเพื่อนชายชาวต่างชาติ ชายผู้มีเงินสกุลแข็ง เป็นดอลลาร์ เป็นปอนด์ เป็นมาร์ก เงินเยน เป็นเงินสกุลอะไรก็ได้ ที่บันดาลให้อาหารตกสู่กระเพาะของเธอได้อย่างน้อยวันละมื้อก็ยังดี
สมัยที่รัสเซียเปิดประเทศใหม่ๆ จากอดีตชาติมหาอำนาจหนึ่งในสองของโลก กลายเป็นประเทศยากจนภายในเวลาชั่วข้ามคืน ไม่มีใครสนใจใคร ไม่มีใครแคร์ศักดิ์ศรี มีแต่ว่าจะหาอาหารลงกระเพาะให้เต็มเท่านั้น
เดิมโซเวียตแทบจะไม่มีโสเภณี ครั้นปีใหม่ พ.ศ.2535 มาถึง ผมเริ่มเห็นดัดดรุณีสตรีรัสเซียเดินเกร่ตามถนน เมื่อเห็นชายต่างชาติ ก็จะชม้ายชายตาเหมือนกับจะสื่อว่า อ้า คุณไม่พาฉันไปทานอาหารที่ไหนซักมื้อหรือคะ?
กลาง พ.ศ.2535 ผมมีโอกาสกลับมาเยี่ยมบ้าน ก็ทราบข่าวว่าซอยนานาของไทย เต็มไปด้วยดัดดรุณีที่มาจากดินแดนแคว้นต่างๆของทางโซเวียต ตัวเลขที่เคยได้จากเพื่อนตำรวจและจากบรรดาผู้คนที่นำสาวรัสเซียเหล่านี้เข้ามา มีมากกว่า 2,000 คนเสียด้วยซ้ำ
กลาง พ.ศ.2536 ผมมีความจำเป็นต้องบินจากกรุงมอสโก ไปพำนักพักอยู่กลางกรุงพนมเปญเมืองหลวง ของกัมพูชาสี่ห้าวัน ผู้อ่านท่านที่เคารพ กัมพูชาสมัยนั้น ยังเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน ยิงกันตาย
ในเมืองหลวงคืนละหลายศพ ภัตตาคารร้านค้าก็ยังไม่มีมาก แต่ผู้อ่านท่านเชื่อไหมครับ ตามโรงแรมน้อยใหญ่ในกรุงพนมเปญเมื่อ พ.ศ.2536 ก็ยังเต็มไปด้วยผู้หญิงรัสเซีย
เรื่องราวแห่งสาวรัสเซีย ยังเป็นเรื่องที่ผู้คนทั่วไปรู้ไม่จริงบ้าง จริงบ้าง รู้ถูกบ้าง ผิดบ้าง ด้วยคารวะต่อวิญญาณของน้องสวิรโควา ลูโบฟ และน้องซือเมร ทาทิอานา ที่ถูกยิงตายในเวลาเช้าตรู่ของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ผมจะเขียนเรื่องสตรีรัสเซียจากประสบการณ์ของตนและของเพื่อน อย่างถูกต้องที่สุด
ประวัติศาสตร์สาวรัสเซียนี้ที่อุบัติในห้วงช่วง พ.ศ.2534-2540 ทั้งในประเทศรัสเซีย มอลโดวา อูเครน อาร์เมเนีย อาเซอร์-ไบจาน จอร์เจีย คาซัคสถาน คีร์กีซ ทาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถาน นั้น ยังไม่เคยมีใครปิดเผยมาก่อน ทั้งในภาคภาษาไทยหรือในภาษาอื่น ถ้าเป็นไปได้ นิติภูมิจะค่อยๆทยอยนำรับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพไปเรื่อยๆครับ.
นิติภูมิ นวรัตน์
_________________
If a fool would persist in his folly, he would become wise.
- WILLIAM BLAKE, English artist and poet (1757 - 1827)
วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2549 ปีที่ 29 ฉบับที่ 10335 หน้า 21
มอสโกแชมป์เมืองค่าครองชีพสูงสุด
ผลการสำรวจของ เมอร์เซอร์ ฮิวแมน รีซอร์ส คอนซัลติ้ง ที่เปิดเผยเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ระบุว่า กรุงมอสโกเมืองหลวงของรัสเซีย กลายเป็นเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ขณะที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่น ซึ่งเคยครองแชมป์เมืองค่าครองชีพสูงที่สุดมานานหลายปี ปรากฏว่าปีนี้ร่วงไปอยู่อันดับ 3 อันเป็นผลมาจากค่าเงินเยนที่อ่อนลง ส่วนกรุงโซลเมืองหลวงของเกาหลีใต้ ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 2 แทน จากอันดับ 5 ในการสำรวจเมื่อปีที่แล้ว
การสำรวจดังกล่าวเป็นการสำรวจเมืองใหญ่ 144 เมืองทั่วโลก โดยวัดจากค่าใช้จ่ายต่างๆ กว่า 200 ประเภท เช่น ค่าที่อยู่อาศัย ค่าขนส่ง และอาหาร ซึ่งเป้าหมายของการสำรวจเพื่อให้ผู้ประกอบการได้มีเครื่องมือในการตัดสินใจการให้ค่าจ้างแก่ลูกจ้างของตนที่อยู่ในต่างประเทศ โดยนางรีเบกกา เพาเวอร์ส ที่ปรึกษาอาวุโสของเมอร์เซอร์ กล่าวว่า ขณะที่ทั่วโลกมีค่าครองชีพเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา นายจ้างเองก็ควรจะทบทวนการจ่ายเงินชดเชยให้แก่ลูกจ้างของตนด้วย
นางเพาเวอร์สกล่าวด้วยว่า อัตราการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินเป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงอันดับที่เกิดขึ้น แต่กรณีกรุงมอสโกนั้น เป็นผลมาจากการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยราคาของบ้านหลังใหญ่นั้นเพิ่มสูงขึ้นถึงราว 50 เปอร์เซ็นต์ในช่วงปีที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากความต้องการของชาวต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้น
สำหรับเมืองที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในยุโรป รองลงมาจากกรุงมอสโก คือกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งอยู่อันดับ 5 และนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อยู่อันดับ 7 โดยหลายเมืองในยุโรปมีอันดับลดลงในปีนี้อันเป็นผลมาจากค่าเงินยูโรที่อ่อนตัวลง ขณะที่นครนิวยอร์ก ของสหรัฐอเมริกา อยู่อันดับที่ 10 ส่วนประเทศจีน มีฮ่องกงอยู่ในอันดับที่ 4 ปักกิ่งอยู่อันดับที่ 14 และเซี่ยงไฮ้อยู่อันดับที่ 20 (เอพี)
ที่มา: http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01for02270649&day=2006/06/27
By :
( IP : ...xxx )
(Read 523 | Answer 0 2008-03-30 13:44:41 )
|
|
|
|
|
|
|
|
|