คลิกเลือกไปหน้าแรก
ชาวสวน'92เข้าสูระบบ
คลิกดูกำหนดการได้ที่วันที่ในปฏิทิน
ธันวาคม - 2567
พฤ
อา
25
26
27
28
29
30
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
1
2
3
4
5
 

@คณะกรรมการชมรม
@ตัวแทน/ผู้ประสานงาน
@วิสัยทัศน์ ค่านิยม ยุทธศาสตร์
@ระเบียบการบริหารงาน
@ระเบียบว่าด้วยเงิน
@รักรุ่นจริงไม่ทิ้งกัน
@บัญชีสถานะการเงิน
@เพลงสวน

คลิกเพื่อเลือกชมและบันทึกข้อความ
คลิกเพื่อดูหรือ post ข่าว
 คลิกเพื่อดูหรือ post จดหมายเวียน
คลิกเพื่อดูหรือ post กำหนดการทำบุญบริจาคโลหิต
คลิกเพื่อดูหรือ post เข้าบอร์ดเพื่อนช่วยเพื่อน
คลิกเพื่อดูหรือ post รายละเอียดธุรกิจของเพื่อน
คลิกเพื่อดูหรือ post คลิปโดนๆของชาวสวน 96
คลิกเพื่อดูหรือ post ภาพกิจกรรมของชาวสวน 96
คลิกเพื่อฝากข่าวสารถึงท่านประธาน
คลิกเพื่อฝากข่าวสารถึง webmaster
คลิกเพื่อดูหรือ postข่าวสารทางวิชาการจากสวน 96
คลิกเพื่อดูหรือ postคำคม,ปรัชญาชีวิต
คลิกเพื่อดูหรือ postเรื่องซุบซิบนินทา
คลิกเพื่อดูหรือ postเรื่องของครอบครัวสวน  96
คลิกเพื่อดูหรือ postเรื่องสันทนาการ

  คลิกเพื่อลิ้งค์ไปสู่หน้าเวปสวนกุหลาบ
  คลิกเพื่อลิ้งค์ไปสู่หน้าเวป OSKNETWORK


หัวข้อ :วิเคราะห์บทความ   [ No. 504 ]  
รายละเอียด :
วิเคราะห์บทความนี้ด้วยครับ ( 2nd ) - 16/03/2007 10:51 เป็นเรื่องที่น่าจะเหมาะสมแล้ว ที่ธปทไม่ควรส่งสัญญานการลดดอกเบี้ยในระยะนี้ แต่ควรเป็นเรื่องของ ธ. ที่จะพิจารณา ลดเพดานดอกเบี้ยเงินกู้ของแบงค์ลงในแต่ละ ธ. เอง

ธ. ต้องยอมเฉีอนเนื้อ ธ. เอง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจุลภาค และทำใก้เกิดพลวัตทางการเงินในมหภาคให้ได้ การที่จะมีกระแสเงินฝากที่กระจุกตัวใน ธ.ต่างๆ ไปสู่ภาคธุรกิจรายย่อยให้มากขึ้น พร้อมๆกับ ก.คลัง ควรลดภาษี VAT ลง2-3 % เพื่อกระตุ้นการบริโภค -ขณะที่รายได้คลัง อาจต้องมาจากสัมปทานใหม่ของรัฐ เช่น วิทยุ ทีวี อีก 5-6 ช่องรายการ ที่อาจทำให้รัฐมีเงินเข้าไม่น้อยกว่า 5-6 หมื่นล้าน ขณะที่เกิดธรุกิจต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 2-3 แสนล้าน ในระยะสั้น

การออกพันธบัตรใหม่ของรัฐบาล(จำนวนมาก) ซึ่งสวนทางกับความพยายามในการลดดอกเบี้ยของ ธปท. อาจนำมาซึ่งความไม่สมดุลของตลาดเงินใน ธ.ต่างๆ และเกิดปัญหาอื่นตามมาในระบบ เพราะงบลงทุนภาครัฐ มีความเสี่ยง จาก การนำงบประมาณไปใช้ไม่รัดกุมพอ ส่วนEIRR นั้นเป็นผลระยะยาวมาก ขณะที่การลงทุนภาคเศรษฐกิจเอกชนมีความคล่องตัวใน rate return ที่สั้นกว่า

ยิ่งการยืมเงิน ญี่ปุนมาเพื่อทำ Mega Proj. ขณะที่แนวโน้ม Yen จะมีโอกาสแข็งค่าขึ้นมากกว่าค่าเงินบาทในอนาคต ซี่งเป็นผลทำให้ overhead ค่าหัวคิวและดอกเบี้ยเงินกู้จะสูงกว่าปรกติมาก และผู้กู้คงรับความเสี่ยงที่มากขึ้น อย่างไรก็ดี หาก US ไม่ส่งสัญญานทางบวกให้ คาดหมายว่าญี่ปุนไม่น่าจะให้เงินกู้จำนวนมากในระยะนี้ เว้นแต่เงินจำนวนหนึ่งที่แลกกับประโยชน์ FTA เท่านั้น ซี่งจะก่อปัญหาความสูญเสียของประเทศที่จะตามมาอีกมาก

มาแล้วครับงานยังไม่เสร็จแต่ขอแวะมาพักในเว็ปไทยโกลด์ซะหน่อย อืม!กระทู้นี้ก็ยังคงเป็นคุณโจโฉเจ้าเก่านี่เองที่นำข่าวนี้มาถามความคิดเห็นของผม ก็ยินดีเสมอครับ ใครสงสัยอะไรอยากแลกเปลี่ยนความคิดเห็นก็ถามผมได้เสมอครับ จะพยายามหาเวลามาตอบให้ แต่ผมต้องขออนุญาตไม่พูดถึงทฤษฎีมากแล้วนะครับจะพูดบ้างให้พอเข้าใจเพราะผมก็เคยสอนไปเยอะแล้วเหมือนกัน แต่ถ้าอ่านแล้วงงตรงไหนก็เขียนถามต่อได้ครับ ยินดีตอบ เอาล่ะครับได้เวลาของวิชาการสบายๆไสตล์สมิทธ์ๆแล้ว(รู้สึกว่าหลังจากผมไปเที่ยวมาสำนวนดีขึ้นมั๊ยครับ) เหอๆ

ในเรื่องของการเพิ่มและลดดอกเบี้ยนั้นผมเคยเขียนให้อ่านไปบ้างแล้วยังอยู่ในกระทู้ "เบื่อพูดเรื่องเงินบาทขอพูดเรื่องทองบ้าง"เลยนะครับที่เป็นบทเรียน เศรษฐศาสตร์กับทองคำ บที่1 นะครับ ถ้าใครยังไม่อ่านควรแวะไปอ่านก่อน มาพูดถึงข่าวที่คุณโจโฉนำมาถามผมดีกว่า การที่รัฐต้องการให้ธ.พานิชย์ลดดอกเบี้ยเงินกู้นั้นไม่มีอะไรครับก็แค่เพื่อที่จะให้พวกนักลงทุนมีต้นทุนท ี่ต่ำลง(เพราะจ่ายดอกน้อยลง)ทำให้อยากที่จะลงทุนมากขึ้นเมื่อ มีการลงทุนมากขึ้นเศรษฐกิจก็จะดีขึ้นครับ จีดีพีก็ดีขึ้นเพราะผมบอกแล้ว เวลาเราคิดจีดีพี เราใช้ การบริโภค+การลงทุนเอกชน+การลงทุนรัฐบาล+ผลต่างมูลค่าการส่งออกและนำเข้า แต่จะลดจริงตามความประสงค์ของ ธปท. มันก็ขึ้นอยู่กับธนาคารพานิชย์แล้วล่ะครับเพราะโดยส่วนมากนั้นถ้าเงินของ ธ.พานิชย์เยอะจนล้นมือแล้วไม่รู้จะเอาไปทำอะไรยิ่งตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดีคนไม่กล้าลงทุน ไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย ประกอบกับตอนนี้ก็ยังพอสมควรผมคิดเห็นว่าเงินของหลายๆท่านที่ไม่ได้เอามาเล่นทองแบบเราๆคงทิ้งคากินดอกอยู ่ในแบงค์กันไม่น้อยครับ แต่อันนี้ผมวิเคราะห์ตามสภาพการณ์ของเศรษฐกิจนะครับว่าเศรษฐกิจมันเป็นแบบนี้เงินในธ.พานิชย์น่าจะมีมากแต ่ผมบอกตรงๆว่าผมไม่ได้เข้าไปไล่ดูทีละแบงค์ว่าเงินเค้าเป็นไงผมแค่พูดไปตามที่คิดตามที่เห็นสภาวะนี้มันน่ าจะเป็นเช่นนั้น อีกอย่างผมเรียนทางด้านทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ครับเรื่องการเงินแบบเจาะลึกมากนักคงต้องให้นักการเงินโดยตรงมาตอ บ เพราะฉะนั้นผมมีความคิดเห็นว่าค่อนข้างเป็นไปได้ครับที่ ธ.พานิชย์จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ถ้าใครอยากลงทุนจำนวนมูลค่าสูงๆแล้วจะกู้แบงค์รอดอกลงอีกนิดก้ได้ครับ แล้วอีกอย่างนะครับดอกเบี้ยเราตอนนี้ผมมองว่ามันสูงไปแล้วล่ะครับถ้า ธ.พานิชย์ไม่ยอมลดก็ไม่แน่ครับ แบงค์ชาติอาจชิงลดเองซะก่อน แต่ผมคิดว่าธ.พานิชย์น่าจะลดก่อนนะครับเพราะตามหลักการแล้วธ.พานิชย์นั้นถูกควบคุมโดยแบงค์ชาติครับ ต้องดำเนินการตามนโยบายของแบงค์ชาติเป็นหลักแต่ผมก็ไม่ทราบนะครับว่าเค้าเคร่งครัดกันมากขนาดไหนแต่คิดว่า ก็คงไม่น้อยล่ะครับ ส่วนในเรื่องการออกพันธบัตรนั้นมันส่งผมต่ออัตราดอกเบี้ยด้วยครับหลายคนคงงงว่าแล้วมันไปเกี่ยวกันอย่างไร แต่ถ้าให้ผมอธิบายเรื่องนี้สงสัยต้อง 1 หน้าเต็มๆครับ ผมขอบอกแค่ว่า การออกพันธบัตรนั้นมีผมทำให้อัตราดอกเบี้ยในประเทศสูงขึ้นเสมอครับแต่ถ้าอยากรู้จริงๆว่าทำไมต้องกระทู้ถา มเรื่องนี้โดยตรงเดี๋ยวผมจะหาเวลามาตอบให้นะครับ นั่นแหละครับตามข่าวเลยมันสวนทางกับการที่ธปท.อยากลดดอกเบี้ยมาก และสาเหตุที่ออกนะถ้าให้ผมเดาคงต้องการงบให้รัฐบาลไปใช้จ่ายนั่น(หรือท่านๆผู้บริหารประเทศหิวกันอีกแล้วก ็ไม่ทราบ)แหละครับ ส่วนเรื่องย่อหน้าสุดท้ายนั้นผมเห็น่วามันไม่เหมาะไม่ควรเอาวะมากๆนะครับที่เราจะไปยืมเงินคนมาลงเมกะโปรเ จกต์ นี่ผมก็พึ่งทราบจากที่คุณโจโฉเอามาแปะถามนะเนี่ย มันไม่ใช่เรื่องเลยครับที่จะไปยืมคนอื่นมันแต่ผมเข้าใจเหตุผลที่เค้าไปยืมนะเพราะวิธีนี้ใช้กันมาหลายครั้ งแล้วเป็นผลดีครับ มันได้2เด้งเวลาเราไปกู้เงินต่างชาติมาผมจำไม่ได้นะครับว่าเวลาบันทึกเค้าบันทึกลงบัญชีไหนแต่ถ้าจำไม่ผิด เวลาลงจะไม่ลงเป็นลบครับจะลงเป็นบวกนั่นหมายความว่าตัวเลขเงินที่เข้ามาในประเทศจะดีขึ้นอีก เด้งที่2 ก็คือถ้าใช้การออกพันธบัตรนั้นในทางทฤษฎีจะสามารถช่วย จีดีพีได้เพียงเล็กน้อย ซึ่งอาจจะไม่คุ้มกับดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเพราะออกพันธบัตรแต่ถ้าไปกูเงินเค้ามาแล้วทำเมกะโปรเจ็กนั่นเหมือน ว่าพวกนักการเมืองได้เงินมาทำเมกะโปรเจกฟรีๆครับเพราะหนี้พวกนี้ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นหนี้ระยะยาว เดี๋ยวพอกู้ได้แล้วใช้เงินไปแล้ว(กินกันอิ่มแล้ว) จีดีพีเพิ่มแล้วตัวเลขดีประชาชนนับถือก็โบกมือบ๊ายบายอย่างฮีโร่ทิ้งภาระหนี้สินและดอกเบี้ยอันหนักอึ้งไว ้ให้ผู้บริหารประเทศรุ่นต่อไป และยิ่งกู้เงินเยนช่วงนี้ผมว่าไม่เหมาะล่ะครับเรื่องความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนวันดีคืนดีค่าเงินเราโดนทุ บลงมาเหลือซัก 37 บาท โอย!ไม่อยากจะคิดเดี๋ยวพวกเราชาวไทยโกลด์ย้ายประเทศหนีกันหมด แต่ถึงไม่โดนทุบด้วยความซบเซาของอเมริกา บวกกับความร้อนแรงของประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอื่นๆที่นับวันค่าเงินจะแข็งขึ้นๆอย่างญี่ปุ่น ยุโรป แค่นี้ก็พอให้เงินกู้ที่กู้พี่ยุ่นมาเพิ่มขึ้นหลายขุมนรกอเวจี เพราะรัฐบาลนี้ได้2เด้ง รัฐบาลหน้าก็รับสองเด้งเหมือนกันคือ หนี้ที่กู้จะเพิ่มขึ้นจากการแข็งค่าของเงินเยน บวกกับอัตราดอกเบี้ยที่ต้องเสีย ดังนั้นผมขอให้พวกเราชาวไทยโกลด์ร่วมกัน ก่อนนอนสวดมนตร์ขับไล่รัฐบาลชุดนี้และขอให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาในเร็ววันและเป็นรัฐบาลที่ดีต้องการทำงานร ับใช้ประเทศอย่างจริงใจ(ผมฝันไปรึป่าวเนี่ย)มันจะได้ไม่ดำเนินการที่บ่อยทำลายประเทศชาติไปกว่านี้

วันนี้ผมเครียดไปหรือป่าวหว่าแหะๆอินครับอินอยากให้ประเทสไทยจงเจริญ

By : chang   ( IP : 58.8.121.xxx ) (Read 698 | Answer 0 2007-03-19 14:32:30 )
 

จำนวนผู้เข้าชมเว็บทั้งหมด 230587 คน

ชมรมศิษย์เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัย รุ่นที่ 96 100/397-398 หมู่บ้านมณียา ถ.รัตนาธิเบศธ์ ซ.ท่าอิฐ ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
ติดต่อท่านประธาน > kematat.p@hotmail.com ติดต่อเว็บมาสเตอร์ >webmaster.osk@gmail.com
Produced By Permpoon C. and Powered by: StartUp Design and Network Co.,Ltd.