|
 |
|
หัวข้อ :"การบริจาคเลือด.....บุญกุศล/ความดีที่ทำได้ไม่ยากจริงๆ" [ No. 526 ] |
|
รายละเอียด :
"คนไทยกับการทำบุญเป็นของคู่กันมานาน"
คุณคงเคยได้ยินไม่มีบุญใดยิ่งใหญ่และสูงสุดเท่ากับการให้ชีวิตหรือช่วยชีวิตผู้อื่น "การบริจาคเลือด คือทางหนึ่งที่ทุกคนสามารถช่วยชีวิตผู้อื่นได้" ในประเทศไทยไม่มีการซื้อขายเลือด ดังนั้นเมื่อคุณบริจาคเลือดเลือดของคุณจะถูกนำไปใช้ประโยชน์ต่อชีวิตผู้คนที่กำลังต้องการความช่วยเหลือหรือกำลังจะเสียชีวิตอย่างแน่นอน
การบริจาคเลือดจะทำให้ร่างกายเสียเลือดไปประมาณ 8 % ของปริมาณเลือดที่มีอยู่ ซึ่งโดยทั่วไปจะไม่ทำให้ร่างกายมีอาการใดๆ ทั้งสิ้น เพราะโดยปกติเลือดจะเสื่อมสลายไปตามเวลา และร่างกายจะสร้างทดแทนขึ้นมาตลอด อย่างไรก็ตามควรดื่มน้ำมากๆ ภายหลังการบริจาคเลือดสัก 2-3 วัน และไม่ควรออกกำลังกายหนักๆ การบริจาคเลือดนั้นทางสภากาชาดไทย จะทำการตรวจเลือดให้ผู้บริจาคด้วย คือความเข้มข้นของเลือดว่าพอหรือไม่ ตรวจหาไวรัสตับอักเสบชนิดบี ชนิดซี การติดเชื้อซิฟิลิส และการติดเชื้อเอดส์ หากตรวจพบสิ่งผิดปกติก็จะแจ้งกลับไปยังผู้บริจาคให้ทราบ เพื่อปรึกษาแพทย์และทำการรักษาต่อไป ส่วนเลือดถุงของผู้ที่มีปัญหาก็จะไม่ถูกนำมาใช้ หลังจากบริจาคเลือดแล้ว ร่างกายจะสร้างเลือดขึ้นทดแทนอย่างรวดเร็ว และจะใกล้เคียงกับระดับปกติในเวลาประมาณ 1 เดือนเท่านั้น หลังจากบริจาคเลือดแล้วทางสภากาชาดไทย หรือศูนย์รับบริจาคเลือดจะให้ยาบำรุงเลือดแก่ผู้บริจาคกลับมารับประทานเสมอ ยาบำรุงเลือดที่ว่ามีส่วนประกอบของธาตุเหล็ก ร่างกายจะนำไปใช้สร้างเม็ดเลือดใหม่ที่สมบูรณ์ต่อไป
เลือดที่บริจาคไปแล้วนั้น ทางศูนย์บริการโลหิตจะแยกออกเป็น 4 ส่วนเพื่อนำไปให้คนไข้ในลักษณะที่แตกต่างกัน โดยแยกเลือดของคุณ 1 ถุงออกเป็น ส่วนที่เป็นเม็ดเลือดแดง มีหน้าที่ในการนำออกซิเจนจากปอดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายเม็ดเลือดแดงนี้เก็บได้ 21-35 วัน ขึ้นอยู่กับสารที่ใส่ลงไปเพื่อการเก็บรักษา ส่วนที่เป็นน้ำเลือด ซึ่งจะใช้กรณีที่ร่างกายมีการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ หรือกรณีที่เป็นโรคตับหรือมีภาวะการขาดโปรตีน ส่วนที่เป็นเกล็ดเลือด เป็นส่วนที่ใช้ในการห้ามเลือดไม่ให้ไหลเวลาที่มีแผล สามารถเก็บไว้ได้ 3-5 วันแล้วแต่ชนิดของถุงที่ใช้เก็บ ส่วนที่เป็นตะกอนเลือด เรียกว่าไครโอพรีซิปปิเตท อันนี้เก็บไว้ได้หลายปี ตะกอนเลือดเป็นส่วนที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือดจากการที่ขาดสารบางอย่าง เช่น แฟคเตอร์ VIII, และ fibrinogen
จะเห็นว่าเลือดที่บริจาคไปเพียง 1 ถุง ถูกนำไปแยกและใช้ประโยชน์อย่างมากมาย สามารถช่วยชีวิตผู้อื่นได้ถึง 4 ชีวิต ใน 4 ลักษณะความต้องการ ดังนั้นคุณอย่าลังเลที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพราะเป็นบุญกุศลที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย เราใช้สิ่งที่มีอยู่ในร่างกายของเราแบ่งปันช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งร่างกายจะสร้างเลือดกลับคืนได้เป็นปกติในเวลาไม่เกิน 1 เดือน และโดยทั่วไปจะสามารถบริจาคเลือดได้ซ้ำทุก 3 เดือน
ปัจจุบันเลือดที่ศูนย์บริการโลหิตต่างๆ รับบริจาคจะไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ของคนไข้ตาม โรงพยาบาลต่างๆ เพราะมีผู้ป่วยที่ต้องการเลือดหรือส่วนประกอบของเลือดเป็นจำนวนมาก อีกทั้งอายุการเก็บรักษาเลือดแต่ละส่วนค่อนข้างสั้น จะมีผู้มาบริจาคมากก็บางโอกาส เช่นในวันหยุดนักขัตฤกษ์ก็จะได้เลือดปริมาณมากในช่วงนั้น แต่ขณะที่ช่วงเวลาปกติก็ยังมีผู้บริจาคให้ไม่เพียงพอ ดังนั้นหากบริจาคในวันอื่นๆ ที่ไม่ใช่วันนักขัตฤกษ์ก็จะช่วยบรรเทาปัญหาเรื่องการขาดแคลนเลือดได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งเลือดทุกกลุ่มก็มีปัญหาความขาดแคลนพอๆ กัน
"วันนี้ชีวิตอีกหลายชีวิตรอรับความช่วยเหลือจากเลือดของคุณอยู่"
ขอขอบคุณ : นิตยสาร Health Today
ผมและพวกได้เริ่มบริจาคโลหิตมาระยะหนึ่งแล้ว สุขภาพแข็งแรง และรู้สึกมีความสุขที่ได้บริจาคโลหิต จึงอยากให้เพื่อนๆ ที่เคยบริจาคโลหิต หรือมีแนวความคิดจะบริจาคโลหิต ได้มาร่วมกันบริจาคโลหิตพร้อมๆกัน ที่สภากาชาดไทย เพื่อการทำบุญให้กับตนเองและบุคคลอันเป็นที่รักของเรา ซึ่งพวกเราได้หารือกับประธานฯ แล้ว เห็นชอบว่าควรแจ้งให้เพื่อนๆ ทราบ และร่วมกันบริจาคโลหิต ในนามชมรมศิษย์เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัย รุ่นที่ 92 โดยในครั้งแรก นัดหมายไปบริจาคโลหิต ที่ สภากาชาดไทย ถ.อังรีดูนังค์ ในวันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม 2550 เวลา 13.00 น. เพื่อเป็นการทำบุญให้กับตนเองและอุทิศส่วนกุศลให้กับเพื่อนสวนกุหลาบที่เสียชีวิตไปแล้วประมาณ 40 กว่าคน ยังไงเพื่อนๆ ช่วยแจ้งความประสงค์มาที่ผม อรรถ อรรถยุติ 08-1832-7510 หรือ บุญธรรม มะระพฤกษ์วรรณ 08-6772-8239 และช่วยบอกต่อๆกัน หรือแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมด้วยนะครับ
By : Tobacco man
( IP : 202.183.243.xxx )
(Read 887 | Answer 2 2007-04-17 08:39:36 )
|
|
|
|
|
ความคิดเห็นที่1 |
|
ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับการบริจาคโลหิตอย่างยิ่ง และขออัญเชิญกระแสพระราชดำรัสของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย ทรงมีต่อผู้บริจาคโลหิตว่า :
?โลหิตเป็นปัจจัยหล่อเลี้ยงรักษาชีวิตให้ดำรงอยู่ นับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต การบริจาคโลหิตจึงเทียบได้กับการบริจาคชีวิต เป็นทานสูงสุด ควรยกย่องสรรเสริญอย่างยิ่ง
การที่ประชาชนชาวไทยมีศรัทธาบำเพ็ญประโยชน์ อย่างเดียวกันนี้ แสดงว่าทุกคนมีจิตใจเป็นกุศลถือตนว่าเป็นเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตายด้วยกัน มีหน้าที่ที่จะอนุเคราะห์กัน และกัน?
บริจาคเลือด...สุดยอดของบุญกุศล..จริงๆๆๆๆ
By : คนดีๆ คนหนึ่ง..ครับ
( 2008-03-30 13:44:10 )
|
|
|
|
|
ความคิดเห็นที่2 |
|
ถึงเพื่อน ๆ ร่วมรุ่น สก 92 ทุกคน
ผมเป็นคนหนึ่งที่บริจาคโลหิตมาโดยตลอด เป็นการทำบุญที่ไม่ต้องลงทุนอะไร แต่ได้บุญกุศลกลับมายังตัวเองมากมาย
เพื่อน ๆ ที่ไม่มีเงิน ไม่มีทุนเป็นทรัพย์สิน ช่วยเหลือสังคมเพื่อนมนุษย์โดยการบริจาคโลหิต เพื่อนจะพบกับความสุข และความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองอย่างใหญ่หลวงครับ
จาก
สุเทพ นันทไชย
By : สุเทพ นันทไชย ห้อง 5/8
( 2008-03-30 13:44:10 )
|
|
|
|
|
|
|
 |
|