| ความคิดเห็นที่1 |
|
เชื่อแต่ไม่ทำ(ดี) กับทำ(ดี)โดยไม่ต้องเชื่อ อย่างไหนดีกว่ากันละท่าน ไอ้พวกที่กราบไหว้พระ ฟังธรรมกันอย่างน่าเลื่อมใส แต่ไฉนมันกินบ้านกินเมืองกัน รีดนาทาเร้นคนกันล่ะ เอาเปรียบผู้อื่น ไอ้พวกที่ยกตัวว่ามีธรรมะอยู่ในใจน่ะ กิเลศตัณหามากมาย ยังล้างจากใจตนเองไม่ได้เลย
By : มือถือสากปากถือศีล
( 2008-03-30 13:44:10 )
|
|
|
|
|
| ความคิดเห็นที่2 |
|
เห็นด้วยกับท่านทุกประการ
แต่มันก็เป็นสันดานของสัตว์โลกนี้เอง
เรากำลังจะต้องแยกแยะสัตว์เดรฉาน
ออกจากสัตว์ที่เรียกว่า"คน"
และเราจะต้องแยกแยะ"คน"กับ
"มนุษย์" ว่ามันต่างกันอย่างไร
แล้วไอ้ที่เรียกว่าจิตใต้สำนึก
ความรู้สึกชั่วดี การละอายต่อบาป
มันควรจะสิ่งสถิตย์อยู่ ณ สัตว์ชนิดใด
สัตว์เดรฉาน คน หรือว่า มนุษย์
ผมว่ายังมีคนมองทะลุเห็นภาพ
อย่างเดียวกับท่านอีกหลายคน
สัตว์โลกนี้ย่อมจะต้องเป็นไปตามกรรมโดยแท้
สาธุ
By : พยนต์
( 2008-03-30 13:44:10 )
|
|
|
|
|
| ความคิดเห็นที่3 |
|
ข้อยว่าแล้ว
ทำมั๊ยคนแก่ชอบฟังธรรม
เปิดวิทยุ ดูทีวี ก้อมีแต่เรื่องธรรมมะ
จำเป็นรึป่าวต้องเข้าวัด โดยเฉพาะอยู่ใน กท.เนี่ย
ก้อคงต้องเข้าบ้าง
พระท่านจะได้ไม่เหงา
เออใช่ดิ้
เรียกพระภิกษุว่าท่าน
ยังดีกว่าเรียกนักการเมืองว่าท่าน
เน้อะ เน้อะ
เกี่ยวกันไม๊เนี่ย
By : จ้อน
( 2008-03-30 13:44:10 )
|
|
|
|
|
| ความคิดเห็นที่4 |
|
กาลามสูตร แปลว่า พระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตติยนิคม แคว้นโกศล เรียกว่า เกสปุตตสูตร ก็มี
กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อ ไม่ให้เชื่องมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดี ก่อนเชื่อ มี ๑๐ ประการคือ
๑. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา
๒. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา
๓. อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ
๔. อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา
๕. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา
๖. อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา
๗. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
๘. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน
๙. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้
๑๐.อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน
เมื่อใด ท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองว่า ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล ธรรมเหล่านี้ไม่มีโทษ ธรรมเหล่านี้ท่านผู้รู้สรรเสริญ ธรรมเหล่านี้ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข เมื่อนั้น ท่านทั้งหลายควรเข้าถึงธรรมเหล่านั้นอยู่
ปัจจุบันได้เกิดแนวคิดและหลักสูตรที่สอนให้คนมีเหตุผลไม่หลงเชื่องมงาย ในทำนองเดียวกับคำสอนของพระพุทธองค์เมื่อ ๒๕๐๐ ปีก่อนบรรจุไว้ในกระบวนการเรียนรู้ในประเทศพัฒนาแล้ว เรียกว่า "การคิดเชิงวิจารณ์" (Critical thinking)
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
By : วรากร
( 2008-03-30 13:44:10 )
|
|
|
|
|
| ความคิดเห็นที่5 |
|
คนไม่ถึงธรรม
ไม่รู้จักค่าของธรรมะ
มีโอกาส แต่ไม่เรียน
เรียน แต่ไม่รู้
รู้ แต่ไม่มี(ตัวธรรม)
มี แต่ไม่ใช้
ใช้ แต่ไม่ถูกเรื่อง
ถูกเรื่อง แต่ตื้นนิดเดียว
เหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องรู้สึกตัว และต้องระวัง เพราะกำลังมีอยู่แม้กับสิ่งที่เรียกว่า " ศาสนา "
By : 19962
( 2008-03-30 13:44:10 )
|
|
|
|
|
| ความคิดเห็นที่6 |
|
คนไม่ถึงธรรม
ไม่รู้จักค่าของธรรมะ
มีโอกาส แต่ไม่เรียน
เรียน แต่ไม่รู้
รู้ แต่ไม่มี(ตัวธรรม)
มี แต่ไม่ใช้
ใช้ แต่ไม่ถูกเรื่อง
ถูกเรื่อง แต่ตื้นนิดเดียว
เหล่านี้เป็นเรื่องที่ต้องรู้สึกตัว และต้องระวัง เพราะกำลังมีอยู่แม้กับสิ่งที่เรียกว่า " ศาสนา "
By : 19962
( 2008-03-30 13:44:10 )
|
|
|
|
|
| ความคิดเห็นที่7 |
|
19962 = ชูหวัง หัตถกิจโกวิท
ดีใจที่เพื่อนใฝ่ธรรม มีอะไรดีๆก็มาโพสต์ไว้บ้างเน้อ
By : 19725
( 2008-03-30 13:44:10 )
|
|
|
|
|
| ความคิดเห็นที่8 |
|
Hi ! 19725 สหายธรรม อาจารย์คุ้น วรากร ตันนิรันดร และเพื่อนosk92ที่รักยิ่ง..........
ชาวสวนกุหลาบฯทั้งหลายมีลักษณะดังนี้ :
" รักเพื่อน นับถือพี่ เคารพครู กตัญญูพ่อแม่ " และ
" ขี้โม้ อีโก้สูง "
ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ฉลาดมาก ฉลาดปานกลาง จนถึงฉลาดน้อยก็มีบ้าง ........
อยากพูดถึงความฉลาดที่ควรระวังกันไว้ให้ดี เรียกเรื่องนี้ว่า.....
" ความฉลาดที่เป็นพิษ "
* ความฉลาดที่ปราศจากการบังคับจิต....
ฉลาดที่ปราศจากศีลธรรมควบคุม
ฉลาดที่อยู่ใต้อำนาจกิเลส : ยิ่งกว่าโง่
ฉลาดของคนไม่รู้จักรับผิดชอบก็มีได้
ฉลาดที่ปราศจากอดทน มักตายด้าน
ฉลาดบางชนิดสู้ไม่ฉลาดไม่ได้
ฉลาดบางชนิดวกกลับมาฆ่าตัวเอง
ฉลาดที่ไม่เมตตา ยิ่งกว่ายักษ์โง่
* ความฉลาดที่บังคับไม่ได้ เหมือนขี่ม้าที่บังคับไม่ได้.......
* คอมพิวเตอร์จะฉลาดไปกว่าคนใช้ไม่ได้.......
ขอให้เพื่อนทุกคน " จงมีสติ "
โชคดีทุกๆคนนะ !
By : 19962
( 2008-03-30 13:44:10 )
|
|
|
|
|
