คลิกเลือกไปหน้าแรก
ชาวสวน'92เข้าสูระบบ
คลิกดูกำหนดการได้ที่วันที่ในปฏิทิน
ธันวาคม - 2567
พฤ
อา
25
26
27
28
29
30
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
1
2
3
4
5
 

@คณะกรรมการชมรม
@ตัวแทน/ผู้ประสานงาน
@วิสัยทัศน์ ค่านิยม ยุทธศาสตร์
@ระเบียบการบริหารงาน
@ระเบียบว่าด้วยเงิน
@รักรุ่นจริงไม่ทิ้งกัน
@บัญชีสถานะการเงิน
@เพลงสวน

คลิกเพื่อเลือกชมและบันทึกข้อความ
คลิกเพื่อดูหรือ post ข่าว
 คลิกเพื่อดูหรือ post จดหมายเวียน
คลิกเพื่อดูหรือ post กำหนดการทำบุญบริจาคโลหิต
คลิกเพื่อดูหรือ post เข้าบอร์ดเพื่อนช่วยเพื่อน
คลิกเพื่อดูหรือ post รายละเอียดธุรกิจของเพื่อน
คลิกเพื่อดูหรือ post คลิปโดนๆของชาวสวน 96
คลิกเพื่อดูหรือ post ภาพกิจกรรมของชาวสวน 96
คลิกเพื่อฝากข่าวสารถึงท่านประธาน
คลิกเพื่อฝากข่าวสารถึง webmaster
คลิกเพื่อดูหรือ postข่าวสารทางวิชาการจากสวน 96
คลิกเพื่อดูหรือ postคำคม,ปรัชญาชีวิต
คลิกเพื่อดูหรือ postเรื่องซุบซิบนินทา
คลิกเพื่อดูหรือ postเรื่องของครอบครัวสวน  96
คลิกเพื่อดูหรือ postเรื่องสันทนาการ

  คลิกเพื่อลิ้งค์ไปสู่หน้าเวปสวนกุหลาบ
  คลิกเพื่อลิ้งค์ไปสู่หน้าเวป OSKNETWORK


หัวข้อ :jaturamitr07: รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย   [ No. 687 ]  
รายละเอียด :
ชื่อกระทู้: jaturamitr07: รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย อย่าเชียร์หยาบคายเลยน้อง ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)
เมื่อเช้าวาน (๖ กค.๒๕๕๐) ..ผมได้มีโอกาสไปร่วมประชุม
เตรียมการจัดฟุตบอลจตุรมิตร ครั้งที่ ๒๔ ที่ กรุงเทพคริสเตียน จะเป็นเจ้าภาพ
(ซึ่งที่ประชุมระบุจำนวนครั้งที่จัดเอาไว้..ต่อเนื่องมาจากการจัดที่ผ่านมาในระยะหลังๆ)
ที่วงเล็บไว้นั้น..จะเป็นประเด็นที่ผมจะนำเสนอให้เสวนากันในช่วงท้ายของกระทู้นี้
โดยจะขอรายงานถึง-วาระสำคัญของการประชุม-นั่นคือ

"ควรจัดการแข่งขันต่อไปหรือไม่..หรือเลื่อนออกไป..
หรือเปลี่ยนรูปแบบ..หรือเปลี่ยนสถานที่..หรือ ฯลฯ"

เพราะหลักใหญ่ใจความเกิดจาก..ความห่วงใยของผู้ปกครองที่ห่วงใยลูกหลานของตน
จะเกิดอันตรายจากเหตุวิวาทระหว่างนักเรียนทั้ง ๔ สถาบัน
ที่เกิดขึ้นเป็นประจำในทุกๆ ที่มีการแข่งขัน
ล่าสุด..เพิ่งเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ระหว่าง คริสเตียน และ อัสสัมชัญ
(มีแซวในที่ประชุมว่า-ปีนี้เด็กหรั่ง ล่อกันก่อน เด็กไทย)

มีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง สารพัดเหตุผล..จากทุกองค์กรของทั้ง ๔ สถาบัน
ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร, สมาคมผู้ปกครอง, เครือข่ายผู้ปกครอง, ศิษย์ศิษย์ปัจจุบัน
ยครบถ้วนกว่าสิบคน (และหลายรอบ)..ใช้เวลาถึงสองชั่วโมงเต็ม
แต่ทุกๆ บทสรุปอภิปรายของทุกคน..ล้วนบอกว่า "ต้องจัดต่อไป"
และยังมีมติต่อเนื่องมาอีกว่า...
จัดแข่งแบบเดิม-พบกันหมด-มีชิงชนะเลิศ-จัดแข่งที่สนามศุภฯ เหมือนเดิม
เป็นการยืนยันเจตนารมณ์ที่จะรักษาประเพณีอันยิ่งใหญ่ของ ๔ สถาบันเกียรติยศนี้ไว้
อีกทั้งจะร่วมกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากกลุ่มนักเรียนผู้ไม่หวังดี
ซึ่งมีอยู่จำนวนหนึ่ง..โดยทุกๆ ฝ่ายจะเดินหน้าช่วยกันแก้..
ไม่ใช่ว่า..จะเดินหนี..อยู่ลูกเดียว-ทั้งๆ ที่มันเป็น พันธกิจของทุกฝ่ายต้องทำ !!
........................................................................................................................
ช่วงท้ายประชุม-ได้นำเรื่อง..
การนับจำนวนครั้งที่จัดแข่งขันจุตรมิตร เกิดผิดพลาด..เข้ามาปรึกษา
โดย อ.วีรกิจ สกุลพันธุ์ ท.ศ.๑๙-๒๑..
นำเสนอเรื่องพร้อมหลักฐานเป็น..สูจิบัตรของงาน เมื่อ ปี ๒๕๑๗
รวมทั้งหนังสือประจำปีของเทพศิรินทร์มาเสนอให้พิจารณาด้วยว่า..

ในพ.ศ.ดังกล่าว-มีการจัดแข่งขัน เป็นครั้งที่ ๘
ไม่ใช่จัดครั้งที่ ๘ ในปี ๒๕๒๑ ตามที่บันทึกต่อเนื่องผิดๆ กันมาตลอด

ซึ่งที่ประชุมได้ตั้งอนุกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง..ให้รีบศึกษาค้นคว้าเพื่อมาแก้ไขให้ถูกต้องต่อไป

นับเป็นเรื่องน่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง..ที่บรรดาผู้เกี่ยวข้องได้ใส่ใจและรีบดำเนินการ
..และผมยังได้เสนอแนะแนวทางการค้นคว้าข้อมูล
โดยแสวงหาจาก clipping ข่าวของหนังสือพิมพ์ อาทิ ไทยรัฐ / เดลินิวส์ เป็นต้น
.......................................................................................................................
ช่วงขณะมีการอภิปรายนั้น..
ผมได้ลองเขียนไล่เรียงจำนวนครั้งของ..จตุรมิตร..ดู..
ก้อเห็นเป็นดังนี้..ครั้งที่ ๑-๒๕๐๗ / ครั้ง ๒-๒๕๐๘
แล้วหยุดไปสองปี..มาต่อ ครั้ง ๓-๒๕๑๑ / ครั้ง ๔-๒๕๑๒
ครั้งที่ ๔ ก้อมีการเลื่อนแข่งเหมือนกัน แต่เลื่อนเฉพาะวันทำพิธีปิด
เนื่องจากเกิดน้ำท่วมกรุงเทพฯ (กรณีนี้น่าสนใจครับ) จึงเลื่อนออกไปประมาณ ๑๐ วัน
ผมจำตรงนี้ได้แม่น..เพราะมันทำให้-ผมสามารถมีเวลาฝึกซ้อมกองเชียร์สวนฯ
ให้ปรบมือเป็นรูปกังหันหมุนได้สำเร็จเป็นครั้งแรกและสถาบันแรก
จนรุ่นหลังๆ ได้พัฒนารูปแบบการปรบมือให้หลากหลายมาถึงทุกวันนี้
......................................................................................................................
มาว่ากันต่อที่จำนวนครั้งและพ.ศ.ที่จัด
ครั้ง ๕-๒๕๑๓ / ครั้ง ๖-๒๕๑๔ (ครั้งนี้มีแน่นอน-เพราะผมถ่ายภาพยนตร์ไว้-มีภาพชัดเจน)
ครั้ง ๗-๒๕๑๕ / ..เอาแล้วซิ-หากไล่ตามนี้ ครั้งที่ ๘ ก้อน่าจะเป็น พ.ศ.๒๕๑๖
แต่ทำไมของ อจ.วีรกิจ..ถึงมีสูจิบัตรระบุ ครั้งที่ ๘ เป็น พ.ศ.๒๕๑๗ ???

ผมแสวงหาคำตอบตรงนี้ได้ไม่ยาก
เพราะช่วงจัดจตุรมิตรแต่ละปีนั้น มีกำหนดการที่แน่นอนว่า..
จะจัดในเดือนตุลาคมของทุกปี โดยจะมีกิจกรรมหนึ่งที่ ๔ โรงเรียน ร่วมมือรวมใจกันตลอด
นอกเหนือจากการแข่งฟุตบอล..นั่นคือ ร่วมกันถวายบังคมพระบรมรูปทรงม้า ๒๓ ตุลาคม
ภาพวงโยธวาทิตและขบวนนักเรียนอัญเชิญพานพุ่มไปถวายสักการะนั้น..งดงามยิ่งนัก

เพราะฉะนั้น..ในปี พ.ศ.๒๕๑๖ จึงไม่น่าจะมีการแข่งขัน
เนื่องจากเกิดเหตุไม่สงบ..๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ ขึ้น จนกลายเป็นวันมหาวิปโยค
จตุรมิตรสามัคคี จึงต้องหลีกลี้..หยุดไปอีก เพราะนักเรียนมัวไปตีกัน..เอ๊ย ! เดินขบวน
แล้วย้อนกลับมาใหม่เป็นครั้งที่ ๘ ในปี ๒๕๑๗ ตรงตามสูจิบัตรที่ อจ.วีรกิจ นำมาให้ชม
..................................................................................................................
หลังจากนั้น..ในที่ประชุม ยังได้มีการเสวนาถึงปีที่มีการจัดแข่งขัน..กันต่ออีกหลายประเด็น
แต่เนื่องจากเวลาจำกัด-ที่ประชุมจึงขอให้อนุกรรมการฯ ไปดำเนินการค้นคว้าดังกล่าว

สำหรับผม..ขอเสนอเอาไว้เป็นข้อมูลและน่าจะเป็นหลักฐานต่อไปได้ว่า...
จากบันทึกเป็นข้อความไว้ในสูจิบัตรระยะหลังๆ จนคัดลอกต่อกันมาเป็นสิบๆ ปีว่า..
"..เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ และภาวะทางการเมือง
ไม่เอื้ออำนวยให้จัดการแข่งขันฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคี
จึงว่างเว้นไประยะหนึ่ง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 ถึง พ.ศ. 2520
และได้มีการจัดขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2521 เป็นครั้งที่ 8.."
ข้อความดังกล่าวนี้แหละ..ที่ทำให้ประวัติศาสตร์เปลี่ยนไป
ซึ่งอาจเกิดจากความบกพร่องของบุคลากรที่รับผิดชอบการเขียนเรื่องนี้
ที่ไม่ได้ใส่ใจในข้อเท็จจริง จึงปล่อยผ่านละเลยมาตลอด
จนถึง พ.ศ.นี้-ที่ต้องมาถกเถียงแสวงหาความจริงกัน
จากประกายที่ อจ.วีรกิจ สกุลพันธุ์ ได้จุดขึ้นมา

และผมยังมีข้อสังเกตต่อเนื่องอีกว่า..
การกลับมาของ จตุรมิตรสามัคคี ในปี พ.ศ.๒๕๒๑ นั้น
น่าจะมีการจัดแข่งขันขึ้นอย่างเป็นทางการแน่นอน
แต่จะนับเป็นครั้งที่เท่าไร คงต้องให้อนุกรรมการฯ ศึกษาค้นคว้ากันต่อไป
และช่วง พ.ศ.๒๕๑๘, ๒๕๑๙ และ ๒๕๒๐ จะมีแข่งหรือไม่ ? จัดแบบใด ?
จะเป็นแบบทางการหรือแบบย่อยๆ ไม่เป็นทางการ ก็น่าจะเป็นไปได้ จึงไม่มีการนับครั้ง..
โดยมีประเด็นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและการเมืองไม่อำนวย..เป็นเหตุค้ำยันอยู่

ซึ่งผม-ขอเสนออีกหนึ่งปัจจัยเข้ามาเป็นเหตุด้วย..นั่นคือ "น้ำท่วม"
สามารถยืนยันได้ว่า..ช่วงเดือนตุลาคม ๒๕๑๘ นั้น น้ำท่วมกรุงเทพขนานใหญ่
ผมจำได้ชัดเจน เพราะเวลานั้น-ออฟฟิศที่ผมทำงาน..ตั้งอยู่ถนนรองเมือง ติดกับสนามศุภฯ
ต้องทุลักทุเล..ท่องน้ำ..ไปทำงานอยู่หลายสัปดาห์

พอ ปี พ.ศ.๒๕๑๙ เกิดเหตุวิปโยค ๖ ตุลาคมขึ้นอีก
นิสิตนักศึกษาและนักเรียน..หนีเข้าป่ากันมากมาย
จึงไม่น่าจะมีการจัดจตุรมิตรสามัคคี..ในปีนี้แน่นอน

แล้วถัดมา ..พ.ศ.๒๕๒๐ ก้อไม่น่าจะจัดเหมือนกัน
เนื่องจากสถานการณ์การเมืองช่วงนั้น สับสนชุลมุน
ไม่ว่าจะเป็นกรณีนักเรียนนักศึกษาหนีหายเข้าป่าไปเป็นปี..
จนทำให้สถานศึกษาต่างๆ และพ่อแม่ผู้ปกครองวิตกกังวลกันมากแล้ว
ยังมีกรณี พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ผบ.ทบ. เลขาฯ คณะปฏิรูปการปกครอง
ยึดอำนาจจากรัฐบาลหอย (นายธานินทร์ กรัยวิเชียร เป็นนายกฯ)
..ก้อเกิดขึ้นอีก เมื่อ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๒๐
จึงน่าจะเป็นคำตอบได้ว่า..ไม่มีจตุรมิตร..ในพ.ศ.นี้

พอมาเริ่มใหม่-ที่มีการยืนยันว่า จัดขึ้นแน่นอนในปี ๒๕๒๑ นั้น
จะเรียกขานเป็นครั้งที่เท่าไหร่..ต้องคอยการยืนยันชัดๆ จากการค้นคว้าเสียก่อน
สำหรับผมในเวลานี้..ค่อนข้างแน่ใจว่า-เป็นครั้งที่ ๙ ครับ

จึงเสนอไว้เป็นประเด็นให้เสวนา
และฝากถึงผู้ที่มีบันทึกหรือหลักฐานอื่นๆ
เข้ามาช่วยกันสังคยานากำพืดของพวกเรา
ทั้ง ๔ สถาบันเกรียงไกรของประเทศด้วยครับ

เมื่อคราวที่ไปติดตามถ่ายวิดีโอเก็บบรรยากาศ จตุรมิตร ครั้งล่าสุดในแง่มุมต่างๆ อยู่นั้น
คิดเพียงแค่ว่า..จะพยายามเก็บสาระพัดสาระพันสิ่งน่ารักน่าสนใจ..มาให้มากที่สุด
จนถึงวันปิดสนาม..ซึ่งกะตอนแรกไว้ในใจว่า-จะถ่ายเฉพาะเกมแข่งชิงที่สาม
ระหว่าง สวนฯ กับ เทพศิรินทร์..ซึ่งหลายต่อหลายคน ห่วงอาการมาตั้งแต่ก่อนแข่ง
จากนั้น..ก็จะรีบกลับมาตัดต่อ เพื่อป้อนขึ้น web ให้เร็วที่สุด

..แต่ web master-kkasem รีบโทร.ไปบอกที่สนามว่า..
ขอให้ถ่ายภาพแปรอักษรมาให้มากที่สุด-
เนื่องจากเวลานั้น มีลูกสวนฯ จำนวนมาก แจ้งความต้องการเข้าไปที่ web suan84
ก็เลยต้อง..เดินย้อนไปย้อนมา ระหว่างหัวสนามกับท้ายสนามศุภฯ ถ่าย video แปรอักษรวันนั้น
มาตัดต่อให้ชมกันเท่าที่พอจะมีโอกาสเอื้ออำนวย
...................................................................................
ย้อนไปถึงหัวค่ำของวันก่อนพิธีปิด
ที่ก่อนหน้านั้น-หลายต่อหลายคนเป็นห่วงว่า-เกมชิงที่สาม ทั้งสองจะติดดาบเล่นบอล
กระทั่งมีข่าวว่า-อาจจะยกเลิกเกม โดยให้สองโรงเรียนไปร่วมพิธีปิด แต่ไม่มีการเตะในสนาม

เรื่องนี้-ผมทราบและแย้งกับผู้อำนวยการของสวนฯ ไปแล้ว ในงานเลี้ยงของรุ่น 88 (30 พย.) แก่นักบอลสวนฯ ที่ร.ร.เอเซีย..
โดยผมให้เหตุผลว่า- การยกเลิกเกมเตะ ถือเป็นการแก้ปัญหาที่บรมห่วยที่สุด !!
เขาเรียกว่าหนีปัญหา..มิใช่การแก้ปัญหาของระดับบริหาร
หากเป็นเช่นนี้-จตุรมิตร ที่มีมา 41 ปี ก็คงจะต้องเลิกไปเลยรีไง??
พร้อมทั้งปวารณาตัวเองว่า-
ยินดีจะพาพี่สวนฯ รุ่นเก่าๆ อาทิ พี่หลอ-ประภัทร์ มาเป็นกองเชียร์และโฆษกในสนามให้-ในวันปิด
เพื่อจะได้สาธกเรื่องความสามัคคีอันดีที่มีมาเก่าแก่เกือบครึ่งศตวรรษ..ให้กองเชียร์ทั้งสองได้ฟัง
......................................................................................
สองวันถัดมา..ตอนบ่ายของศุกร์ที่ 2 ธค. ก่อนจะถึงพิธีปิด
ก็ได้รับโทรศัพท์ตามตัวด่วนจาก..
เต๊ะ-สมเกียรติ มณีอินทร์ และ ป๊อก-ประกาศิต สุวรรณานนท์ รุ่น 86 และ 88 เป็นนักบอลสวนฯ ทั้งคู่
บอกว่า- ช่วยไปให้ความคิดเห็นแก่นักฟุตบอลของสวนฯ และ เทพฯ ในค่ำนี้หน่อย
โดยผู้บริหารและครูของทั้งสองโรงเรียน..นัดหมายมาเจอะเจอกินข้าวกันที่ ร้านเพลิน-วิภาวดีฯ
ผมจึงตอบตกลง และแหวกการจราจรที่ติดขัดไปตามสถานที่นัดหมาย
พบนักบอลของทั้งสองทีม สลับสับเปลี่ยนกันนั่งตามโต๊ะต่างๆ
ส่วนโต๊ะวีไอพี. มีผู้อำนวยการของสองโรงเรียน และสต๊าฟโค้ชนั่งอยู่
และบุคคลคู่สำคัญที่ร่วมโต๊ะนี้ได้แก่
พ.ต.อ.วีรวิทย์ (มานิตย์) จันทร์จำเริญ - สก.83/84 อดีตนักฟุตบอลตัวกลั่นของ สวนฯ และ จุฬาฯ
ปัจจุบันเป็น ผู้กำกับ สน.พลับพลาไชย 1 ..พื้นที่-ที่ร.ร.เทพศิรินทร์ ตั้งอยู่
กับอีกคนหนึ่ง-แต่งเครื่องแบบสีกากีเต็มยศ..มงกุฎครอบดาวบนบ่าเท่ากับคนแรก
พ.ต.อ.อาจินต์ จารุวร-อดีตผู้รักษาประตูเทพศิรินทร์ ในฟุตบอลจตุรมิตร ยุค 2511-14
ปัจจุบันเป็น รองผู้บังคับการ นครบาล 5
ทั้งสองท่านให้เกียรติมาเล่าเรื่องสามัคคีของสองทีมแต่ครั้งกระโน้น..
จนส่งผลให้การปฏิบัติหน้าที่การงาน-ตั้งแต่เริ่มรับราชการใหม่ๆ ไล่มาถึงปัจจุบัน
ซึ่งสำเร็จลุล่วงไปหลายต่อหลายครั้งนั้น..
มีพื้นฐานจากการได้หล่อหลอมความสามัคคีจากเกม "จตุรมิตรสามัคคี" ครั้งกระโน้นนั่นเอง

จากนั้นเป็นโอวาทของผู้บริหารและสต๊าฟโค้ชของสองสถาบัน..
ที่ถือกำเนิดมาจากการได้รับพระเมตตา-พระราชทานจากเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินโดยแท้
นั่นคือ..ล้นเกล้า ร.๕ พระราชทานกำเนิด "สวนกุหลาบ"
เช่นเดียวกับ "เทพศิรินทร์" เป็นลูกรักในอ้อมอกของ "แม่รำเพย"
โอวาทที่นักฟุตบอลของทั้งสองทีมได้รับในค่ำนั้น..
จึงตอกย้ำถึงความสามัคคีของทั้งคู่
...................................................................................................................
แล้วก็ แอ่น-แอ๊น !!
ถึงคิวของผม..ที่ไปแอ่นอกปวารณาตัวเองไว้แต่ต้น-จนเข้ามาเอี่ยวในงานนี้อย่างปัจจุบันทันด่วน
ผมเริ่มต้นร่ายยาว-แต่พอจะสรุปให้อ่านกันได้สั้นๆ ว่า..

บรรดานักเรียนเทพศิรินทร์-ภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง กับสิ่งแรกคือ..
ล้นเกล้าฯ ร.๘ ..ได้ทรงศึกษาเบื้องต้นที่โรงเรียนแห่งนี้
และสิ่งที่สองคือ-ภูมิใจในตัวนายกรัฐมนตรีคนหนึ่ง ใช่ไหม?
(มีเสียงตอบจากนักบอลเทพฯ ว่า-ใช่)

และทราบดีว่า-ท่านเป็นนายกรัฐมนตรีประเทศเพื่อนบ้านเรา ใช่ไหม?
(มีเสียงงึมงำดังว่า-ใช่..เพราะทีแรกคงคิดว่าจะหมายถึงนายกฯ เมืองไทย-ซึ่งสวนกุหลาบมีอยู่เป็นสิบท่าน)

ครับ-ใช่แล้ว..ท่านตนกู อับดุล เราะ มานห์..อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ยิ่งใหญ่ของมาเลเซีย
ครั้งที่ท่านมาศึกษาระดับชั้นมัธยม ที่โรงเรียนเทพศิรินทร์แห่งนี้
โดยท่านเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลตัวยงของทีมเขียว-เหลือง
และห้วงเวลาเดียวกันนั้น..ทางด้านสวนกุหลาบฯ ก็มีนักฟุตบอลคนเก่งเหมือนกัน
ท่านเล่นเก่งจนติดทีมชาติไทย และโชกโชนกับเกมฟุตบอล กระทั่งประสบเหตุขาหักทั้งสองข้าง
ต่อมาท่านดำรงตำแหน่งเป็น นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย
ในสมัยที่ท่านเป็น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล..ท่านคือ พล.ต.ท.ต่อศักด์ ยมนาค
และท่านคือผู้ที่ดำริเริ่มต้นจัดแข่งขันฟุตบอล "คิงส์คัพ" ที่มีมาถึงวันนี้และแข่งอยู่เวลานี้

ส่วน ฯพณฯ ตนกู ..ท่านเป็นผู้ริเริ่มจัดแข่งขันฟุตบอลระดับทวีปเอเซียเลยทีเดียว
นั่นคือ-การแข่งขันฟุตบอลเยาวชน (อายุไม่เกิน 20 ปี) ชิงแชมป์แห่งทวีปเอเซีย
มีจัดแข่งทุกปี มีทีมเข้าร่วมแข่งขันจากชาติต่างๆ ทั่วทวีปไม่ต่ำกว่า 16 ทีมในแต่ละครั้ง
..โดยทีมไทยมีโอกาสได้ชนะเลิศเป็นครั้งแรก เมื่อปี 2504
(ครั้งนั้น-หากจำไม่ผิด มีนักบอลสวนฯ อาทิ พี่เต้ย-ทวีพงษ์ เสนีย์วงศ์, ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ฯลฯ ติดทีมชุดนี้ด้วย)
เรียกว่า-เพราะ ท่านตนกู มีลูกฟุตบอลอยู่ในหัวใจ จึงดำเนินการเรื่องนี้ทันทีที่ท่านได้ดำรงตำแหน่งสูงสุด

นั่นคือกิตติศัพท์ของทั้งสองท่าน-ในเวลาต่อมา
หลังจากที่สมัยนุ่งกางเกงขาสั้นนั้น ท่านเป็นนักฟุตบอลคู่ขับเคี่ยวในเกมสมานสามัคคีระหว่างสถาบันเก่าแก่ของชาติ มาตลอด
จึงต้องขอคำตอบจากทุกคนว่า-

สวนกุหลาบ กับ เทพศิรินทร์ ..เตะฟุตบอลกันมาตั้งแต่รุ่นทวดรุ่นปู่
ท่านเตะเป็นเกมกีฬา-สมานสามัคคี ..รู้แพ้-รู้ชนะ-รู้อภัย (คำขวัญตลอดชีพของ ครูผล ใจสว่าง)
แล้วทีมบอลในปัจจุบันวันนี้-เตะฟุตบอลโดยติดดาบเข้าห้ำหั่นกัน-กระนั้นหรือ??
เกม "จตุรมิตรสามัคคี" กำเนิดมาได้สี่สิบปี
แต่เกมที่อยู่ในหัวใจของทั้งสองโรงเรียนนั้น..เกิดขึ้นในแดนสยาม-เกือบร้อยปีมาแล้ว
......................................................................................................................
ผมร่ายยาวมาถึงตรงนี้-จึงหันไปถามนักบอลสวนฯ ที่นั่งโอบไหล่อยู่กับนักบอลเทพฯ ว่า..

หากจตุรมิตร ครั้งที่ 23 นี้..ทีมสวนฯ ได้ตำแหน่งบ๊วย-จะเสียใจไหม ?
... (ไม่มีคำตอบ..!?!) .....
จึงร่ายต่อ..ว่า..

จำได้ไหม-ใน 22 ครั้งที่ผ่านมา..สวนฯ ชนะกี่ครั้ง และ เทพฯ ชนะ กี่ครั้ง ??
... (ไม่มีคำตอบ..!?!) ... อีก

นั่นไง-เป็นหนึ่งในสุดยอดวัตถุประสงค์ ของ "จตุรมิตร" ที่ยกเว้นการบันทึกสถิติไว้อย่างเป็นทางการ
เขาปล่อยให้เป็นความทรงจำในแต่ละ generation ของทั้งสี่โรงเรียน
ให้เป็นความประทับใจ-ความเสียใจ..ให้มีรอยยิ้ม-มีคราบน้ำตา
ให้เกมดังกล่าว-เป็นเกมสามัคคี เป็นเกมเกียรติยศของลูกผู้ชายทั้งสี่โรงเรียน
ที่จะได้ย้อนความทรงจำในห้วงวันเวลาที่นุ่งขาสั้น..
แล้วเอามารำลึกถึงและถกเถียงกัน..ในวันนี้

จตุรมิตรสามัคคี..ยังจะต้องมีต่อไปอีกเป็นร้อย..สองร้อยปี
หากจัดแข่งขันปีเว้นปีแบบนี้..ก็จะมี "จตุรมิตร" อีก 100 ครั้ง
ในจำนวนนี้-ทีมสวนกุหลาบ อาจจะชนะเลิศถึง 73 ครั้ง ก็ได้
ส่วนที่เหลือ-ให้อีกสามโรงเรียนแบ่งกันไป..
ซึ่งหากเป็นแบบนี้-ก็คงจะไม่มีใครอยากมาเตะกับสวนฯ.. เพราะเอ็งเก่งอยู่คนเดียว !!

แล้วผมก็หันถามนักบอล เทพฯ ว่า...
หรือเทพศิรินทร์-คิดว่าไง ? ..คิดว่าจะชนะเลิศซักกี่ครั้งดี ?

มีคำตอบเสียงดังฉาดฉานจากตัวแทนนักบอลคนหนึ่งว่า..
"ขอ เทพฯ ชนะ 91 ครั้ง..ครับ"

ปลาเริ่มติดเบ็ดแล้วครับ..ผมจึงตอบไปว่า...
"เยี่ยม- เทพศิรินทร์ ยังมีน้ำใจแบ่งขนมให้เพื่อนฝูงอีกตั้ง 9 ครั้งแน่ะ"
ก็เลยมีเสียงเฮจากผู้อยู่ในห้องจำนวนเกินครึ่งร้อย..ผ่อนคลายบรรยากาศ
............................................................................................................
ผมเปลี่ยนเรื่อง-หันมาถามต่ออีกว่า-
นักบอลทั้งสองทีม..เคยมีโอกาสดูวิดีโอเทป การแข่งบอล-แมทช์คลาสสิค ประทับใจคนทั้งโลกมั้ย ?

(มีเสียงพึมพำ-ทั้งเคย และ ไม่เคย..เนื่องจากที่นั่งฟังนั้น ต่างวัย กันหลายรุ่น)
หลายๆ คนพยักหน้า เมื่อผมเฉลยว่า..
แมทช์ตัดเชือก รอบควอเตอร์ไฟนอล ระหว่าง "ฝรั่งเศส" กับ "บราซิล"
ที่ใครต่อใครหลายคนบอกว่า-น่าจะเป็นคู่ชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกครั้งนั้น..มากที่สุด
จอมทัพของฝรั่งเศส นำโดย มิเชล พลาตินี่ (คนที่เคยเป็นประธานจัดฟุตบอลโลกเมื่อสองครั้งก่อนหน้านี้)
ปะทะกับบราซิล ที่มี "ซิโก้" เป็นหัวหอก (คนนี้เป็นค้ชใหญ่ของญี่ปุ่นชุดลุยบอลโลกปีหน้า)
ห้วงเวลา 45 นาทีของทั้งสองครึ่งในแมทช์นั้น..ผ่านไปโดยผู้ชมไม่รู้สึกตัวเลย !!
เป็นแมทช์ที่ทั้งคู่เล่นด้วยชั้นเชิงลีลาลูกหนังที่พริ้วไหว..สวยงามจริงๆ
ไม่มีใบแดงหรือใบเหลือง จากกรรมการควักออกมาแจกแม้แต่ใบเดียว

..ขอถามนักบอลวัยรุ่นทั้งสองทีมหน่อยว่า..
แม้จะเกิดไม่ทันดู หรือไม่เคยได้ดูวิดีโอเทปเกมดังกล่าว
แต่วันนี้มีนักฟุตบอลระดับโลก ที่มีลีลาการเล่นคลาสสิค ให้ดูเยอะแยะใช่ไหม ?
..พวกเธอคงชอบ-โรนัลดินโญ่ ..ชอบ-เบคแคมป์ ..ชอบ-ซีดาน ..ชอบ-โรนัลโด้
ชอบเกมการเล่นที่เพลิดเพลินของเขาใช่ไหม ?
นั่นแหละ-ที่เขาเรียกว่า เกมฟุตบอลสมัยใหม่นั้น เป็น entertainment ประเภทหนึ่ง
เหมือนการแสดงหนัง แสดงละคร ให้ผู้ชมชื่นชอบ
นักบอลพวกนั้น สร้างความบันเทิง สนุกสนานเร้าใจ ให้ผู้ชมทั้งสนามและค่อนโลกที่ดูถ่ายทอดสด

เช่นเดียวกับ..25 คน ที่จะอยู่บนหญ้าเขียวสนามศุภฯ วันพรุ่งนี้
..ไม่ต้อง-งง-ครับ
เพราะสองทีมรวม 22 คน แถมยังมีกรรมการและไลน์แมนอีก 3 คน รวมแล้ว 25 คนด้วยกัน
ทั้งหมดคือ entertainer ที่จะต้องสวมบทบาทแสดงเกมที่สนุกสนานเร้าใจ
ให้ผู้ชมทั้งสนามชื่นชอบ..และปรบมือให้
คนดูบนอัฒจรรย์ เป็นผู้ติดตามบทบาทการแสดงของเรา
พวกเขาจะประทับใจ-ยิ้มย่องผ่องใสไปกับเกมที่ใสสะอาด
มีจับไม้จับมือให้อภัยกันในสนาม เมื่อเกิดกระทบกระแทกกันในเกม
..พวกเธอทั้งสองทีม ไม่ต้องไปเล่นบทบาทโหด-ตามเสียงเชียร์ของกองเชียร์ถ่อย ที่มีอยู่ไม่กี่คนบนอัฒจรรย์หรอก
เพราะหากเราติดดาบเล่นกัน..คนดูมีอารมณ์คล้อยตามจากบทตัวร้ายที่เห็นบนสนาม
เหตุการณ์มันก็จะลุกลามต่อเนื่องไปกันใหญ่
เกมฟุตบอลจะต้องดำเนินต่อไป..ถึงแม้พวกเธอจะเรียนจบไปแล้ว
มีครอบครัว-มีลูกหลาน..กระทั่งตายไปในภายหน้า
เกมฟุตบอล-ก็ยังมีอยู่ในโลกนี้
"จตุรมิตรสามัคคี" ก็ยังคงมีต่อไปอีกนานเท่านาน
.......................................................................................................................
แล้วผมก็หันไปหา "ปลาที่ติดเบ็ด" ที่ผมทิ้งทุ่นไว้แต่แรก..แล้วถามว่า..

"เมื่อกี้-นักบอลเทพฯ ท่านใดครับ..ที่บอกว่า-จะขอชนะเลิศจตุรมิตรรวม 91 ครั้ง..น่ะ"

มีผู้ยกมือ..และยิ้มภาคภูมิใจ
ผมจึงสำทับต่อให้ทุกคนได้ยินชัดเจนว่า..

"เพราะฉะนั้น..เธอต้องมีหน้าที่รักษาเกมจตุรมิตรนี้ไว้..เพื่อทำตามความประสงค์ของเธอให้ได้
..เธอต้องไปกำชับลูกของเธอ..ให้กำชับหลาน-เหลน ที่จะเกิดต่อไปในภายหน้าว่า..
จะต้องรักษาความยิ่งใหญ่-ความสามัคคีของ "จตุรมิตร" ไว้ให้ถึง 200 ปีข้างหน้า
เพื่อที่เทพศิรินทร์ จะได้เป็นแชมป์รวมทั้งหมด 91 ครั้ง-ดังที่ตั้งใจไว้..นะครับ"

ถัดจากนั้น-อีกไม่กี่นาที...
เสียงเพลง "จตุรมิตรสามัคคี..ดีเด่น.....
ก็ดังกระหึ่มขึ้น..พร้อมกับการทะยอยกอดคอกัน เดินออกจากห้องของทั้งสองทีม..กลับแคมป์เก็บตัว

แล้วบ่ายวันรุ่งขึ้น..
ผู้ชมทั้งสนาม ก็ได้เห็นเกมชิงที่สามของทั้งสอง..เต็มไปด้วยมิตรภาพอันยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง
ส่วนคู่ชิงชนะเลิศนั้น-
บรรยากาศเป็นอย่างไร ? ..ผมไม่ได้สนใจ !?!
เพราะ-ยังปลื้มใจกับภาพ..
นักบอลเสื้อเขียวเหลือง-และชมพูฟ้า..จับมือ-สวมกอดกันกลม..เมื่อจบเกม

ผมขอบันทึกเรื่องราวนี้ไว้ให้อ่าน..
โดยคาดหวังว่า-อีกสองร้อยปีข้างหน้า-จะมีผู้มาให้คำตอบได้ว่า..
เทพศิรินทร์ ขนะเลิศครบ 91 ครั้งจริงๆ !!!

ติดตามชม video clip-before kick off ..เรื่องที่เล่ามานี้..และบรรยากาศอื่นๆ ได้ที่http://www.suan84.com/tv/jaturamitr_16.htm

By : ( IP : ...xxx ) (Read 712 | Answer 1 2008-03-30 13:44:41 )
 

ความคิดเห็นที่1  

ขอชมเพื่อน ช้าง เขียนข่าวเนื้อหาได้ดีมาก อ่านแล้วเพลินดีครับ จาก เพื่อน สุเทพ ห้อง 5/8

By : สุเทพ นันทไชย ( 2008-03-30 13:44:10 )
 

จำนวนผู้เข้าชมเว็บทั้งหมด 230592 คน

ชมรมศิษย์เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัย รุ่นที่ 96 100/397-398 หมู่บ้านมณียา ถ.รัตนาธิเบศธ์ ซ.ท่าอิฐ ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
ติดต่อท่านประธาน > kematat.p@hotmail.com ติดต่อเว็บมาสเตอร์ >webmaster.osk@gmail.com
Produced By Permpoon C. and Powered by: StartUp Design and Network Co.,Ltd.